วันจันทร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

กรรมออนไลน์จากการทำแท้ง

โดย พญ.ชัญวลี ศรีสุโขจากคอลัมน์ “เปิดห้องหมอสูติ”
นิตยสารชีวจิต ฉบับวันที่ ๑๖ สิงหาคม ๒๕๔๘


ขอเล่าเรื่องกรรมออนไลน์จากการทำแท้ง ซึ่งไม่ต้องรอผลกรรมในชาติหน้าเลย เพราะมันเกิดให้เห็นในชาตินี้ ในเวลาไม่นานเกินรอ
คุณหมู (นามสมมุติ) เป็นคนไข้รายหนึ่ง ที่มาหาดิฉันด้วยเรื่องอยากมีประจำเดือน “หนูไม่มีประจำเดือนมาสองปีแล้วค่ะหมอ” เธอบอก
เมื่อถามรายละเอียด พบว่าอยากมีประจำเดือน เพราะเธอเข้าใจว่า เพราะไม่มีประจำเดือนทำให้เธอไม่มีลูก ตอนนี้เธออายุแค่ ๒๒ ปี
แม่ของสามีขู่ว่า ถ้าไม่มีลูก จะหาภรรยาใหม่ให้สามี เธอจึงวิตกกังวลและปรึกษามาหลายหมอแล้ว
ประวัติของเธอ
คือ เมื่ออายุ ๒๐ ปี เธอมีเพศสัมพันธ์กับคู่รัก จนตั้งท้องได้ ๓ เดือน
เมื่อไม่พร้อมเธอจึงไปทำแท้ง ให้หมอเถื่อนดูดและขูดมดลูกเอาเด็กทารกออก
หลังทำแท้ง เธอสังเกตว่า ประจำเดือนมาน้อยมาก
และต่อจากนั้น ก็ไม่เคยมีประจำเดือนอีกเลย หลังจากเอาเด็กออก
เธอก็แยกทางกับคู่รัก และมาแต่งงานกับสามี ซึ่งมีฐานะดี และมีอายุมากกว่า ๑๐ ปี
สามีเป็นลูกคนเดียวของพ่อแม่ จึงอยากมีลูกหลายๆ คน
ก่อนมาหาดิฉัน เธอได้ตรวจพิเศษเพิ่มเติมหลายอย่าง
ผลการตรวจที่เธอ นำมาให้ดูอย่างหนึ่ง คือ
รูปเอกซเรย์การฉีดสีเข้าโพรงมดลูก (Hysterosalpingography) การฉีดสีเข้าโพรงมดลูกนั้น
เป็นการสืบค้นอย่างหนึ่ง เพื่อดูว่าปากมดลูก โพรงมดลูก ตลอดจนท่อรังไข่ตีบตัน หรือมีเนื้องอกอะไรในอวัยวะภายในหรือไม่
ใช้สืบค้นสำหรับผู้มีบุตรยาก
คำว่า มีบุตรยาก คือ แต่งงานกันมานาน ๑ ปี มีเพศสัมพันธ์สม่ำเสมอ แต่ไม่ตั้งครรภ็
โดยทั่วไป เมื่ออยู่กินกันมานาน ๑ ปี ร้อยละ ๘๐ - ๙๐ ควรจะตั้งครรภ์ ร้อยละ ๑๐ - ๑๕ ที่ไม่ตั้งครรภ์
จึงเรียกว่า เป็นผู้มีบุตรยาก
การฉีดสีเข้าโพรงมดลูกของคุณหมูนั้น
พบว่า ไม่สามารถจะฉีดเข้าไปได้เลย
ทางรังสีแพทย์วินิจฉัยว่า โพรงมดลูกตีบตัน (Asherman’s Syndrome)
เมื่อไม่มีโพรงมดลูก ก็ย่อมไม่มีประจำเดือน และไม่มีการตั้งครรภ์
โพรงมดลูกตีบตันนั้น พบได้ร้อยละ ๑๓ ของผู้หญิงที่มีบุตรยาก
สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการขูดมดลูก จนมีการทำลายเยื่อบุมดลูก หรือมีอาการอักเสบติดเชื้อ
ทำให้เกิดพังผืดในโพรงมดลูก
โดยทั่วไปสามารถรักษาได้ โดยใช้กล้อง (Hysteroscope)
ส่องเข้าไปในโพรงมดลูก จี้สลายพังผืด เพื่อให้โพรงมดลูกกลับมาปกติดังเดิม
แต่สำหรับคุณหมูนั้น
โพรงมดลูกตีบตันอย่างรุนแรง เนื่องจากเยื่อบุมดลูก ถูกทำลายไปจนหมดสิ้นจากการทำแท้งเถื่อน
แสดงว่าต้องมีการขูดมดลูกที่รุนแรง หรือมีการอักเสบติดเชื้อตามมา
การไม่มีประจำเดือน และการไม่มีลูก ล้วนแต่เป็นผลจากการทำแท้ง
เนื่องจากวิทยาการปัจจุบัน ยังไม่สามารถสร้างเยื่อบุมดลูกเทียมได้
(ถ้ายังเหลือเยื่อบุมดลูกบ้าง การใช้ฮอร์โมนกระตุ้น ก็อาจได้ผล)
จึงไม่สามารถให้มีลูก และทำให้ประจำเดือนกลับมามีเป็นปกติได้
อยากมีลูก
จึงมีวิธีเดียวที่ทำให้สมหวังได้ คือ “อุ้มบุญ”
คือใช้ไข่ของคุณหมูผสมกับอสุจิของสามี และนำไปฝากครรภ์คนอื่น
ซึ่งวิธีนี้ คุณหมูก็รู้มาจากคุณหมอคนก่อนๆ แล้ว แต่เธอเล่าว่า
แม่สามีบอกว่า ถ้าจะหาคนอุ้มบุญ หาเมียใหม่ง่ายกว่า
ตอนนี้
แม้คุณหมูจะร้องไห้ จนน้ำตาเป็นสายเลือด ก็ไม่อาจแก้ปัญหา อยากมีลูกเองได้
นอกจากดิฉันจะอธิบายเหมือนหมอคนอื่นๆ ดิฉันก็ยังคิดในใจว่า...นี่กรรมจากการทำแท้งเถื่อนโดยแท้ ไม่น่าเชื่อว่าเรื่องกรรมจากการทำแท้งนั้นพบได้มากมาย
คนไข้คนหนึ่งไปทำแท้งเถื่อนตอนท้องได้ ๒ เดือน แต่ทารกไม่ออก
เจ้าตัวก็ไม่รู้สงสัยอยู่ว่า ทำไมมีเลือดออกอยู่เรื่อย
มารู้อีกทีตอนท้อง ๖ เดือนแล้ว
พบว่าภายหลังทารกคลอดออกมา
เป็นเด็กพิการปัญญาอ่อน มีนิ้วมือนิ้วเท้าไม่ครบ
ทำให้คนเป็นแม่ ทุกข์ทรมานจาการเลี้ยงลูกปัญญาอ่อนพิการจนถึงปัจจุบัน
คนไข้อีกรายหนึ่งบอกว่า ตนยากจน
เมื่อท้องได้ ๗ เดือน ได้ซื้อยาบีบมดลูก ที่ลักลอบขายมาเหน็บทำแท้งตนเอง
และมาแท้งลูกที่โรงพยาบาล เด็กยังอ่อนนักก็เสียชีวิต
ตามธรรมเนียมเมื่อมีทารกตาย
ก็จะแนะนำให้ญาตินำศพเด็กไปทำบุญที่วัด
ทำบุญนี้คือ ให้สัปเหร่อช่วยนิมนต์พระมาสวดและเผาศพ ใช้ค่าใช้จ่ายเพียงร้อยสองร้อย
แต่รายนี้เมื่อเด็กแท้งออกมา
พ่อของเด็กคงนึกเสียดายค่าทำบุญ
จึงนำศพลูกไปกดทิ้งในโถส้วมที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง
ปรากฏว่า
เด็กปั๊มแจ้งตำรวจ
เพราะคิดว่ามีการฆาตรกรรมเด็ก
ตำรวจจึงตามมาสอบสวน ผลคือ
คนไข้รายนี้ต้องเสียเงินหลายพันบาท
เป็นค่าปิดปากเด็กปั๊มและตำรวจ
อ้างว่าทำแท้ง เพราะไม่มีเงินเลี้ยงดูลูก
แต่ในที่สุดก็เสียเงินจำนวนมากกว่า
เพราะการทำแท้งนั่นเอง...อย่างนี้ไม่เรียกว่ากรรมออนไลน์ก็ไม่รู้จะเรียกอะไรนะคะ

กรรมของลูก

ลูกเถียงพ่อเถียงแม่
สำหรับผู้ที่ชอบเถียงพ่อจัดว่าเป็นการทำความชั่วที่หนักหนาสาหัสเมื่อลูกผู้นั้นเริ่มเข้าสังคมจะโดนผู้อื่นว่าร้าย ถกเถียงชนิดคำต่อคำ พ่อแม่เคยเจ็บช้ำจากการเถียงของลูกเช่นไรลูกคนนนั้นก็จะโดนสังคมบีบคั้นเช่นกันกรรมนี้สามารถพบเห็นในพบชาตินี้แน่นอนส่วนทางร่างกายนั้นลูกที่เถียงพ่อแม่ที่มีกรรมหนักมากจะมีอาการลิ้นสั้นจุกปาก พูดจาไม่ถนัด พูดลิ้นพันกัน ลิ้นแข็ง ฯลฯ

ลูกที่ทำร้ายพ่อแม่
ในศาสนาพุทธนั้นสอนว่าลูกที่ทำร้ายพ่อแม่ตายไปแล้วจะไปเกิดในขุมนรกชื่อตปะนรก มีลักษณะเป็นบัวกลดเผาทำลายอยู่เป็นนิจมียมบาลคอยเอาค้อนทุบหัวอยู่ร่ำไป แต่ถ้าจะให้เห็นในชาติปัจจุบันแม่ชีธนพรบอกว่าคนที่ทำร้ายพ่อแม่อกุศลกรรมจะทำให้คนผู้นั้นถูกคนรักทำร้าย เช่นอาจจะเป็นสามี ภรรยา บุตรหรือคนที่สนิททำร้ายได้

ลูกที่ใช้ให้พ่อแม่บริการตัวเอง
การที่ลูกๆ ใช้พ่อแม่ให้บริการตัวเองหรือพ่อแม่เต็มใจบริการลูกๆ เพราะรักลูกมาก เช่นซักผ้า ล้างจาน ทำกับข้าวให้จะถือว่าเป็นกรรมที่พ่อแม่ทำให้เกิดกับลูกทั้งสิ้น ทำให้เมื่อลูกออกไปใช้ชีวิตในสังคมจะต้องไปเป็นข้าผู้อื่น ถูกคนอื่นเอารัดเอาเปรียบเป็นต้น

การทำแท้ง
การทำแท้ง ถือเป็นกรรมในหมวดข้อการเบียดเบียนชีวิตหรือปาณาติบาต ผู้ที่กรรมนี้จะหากินไม่ขึ้น หาความสุขใจในชีวิตนี้ไม่ได้เลย เพราะโดนวิญญาณที่จะมาเกิดเป็นลูกของตัวเองนั้นจองเวรอาฆาต ซึ่งการเกิดการตายของมนุษย์นั้นเป็นเรื่องเกี่ยวกับจิตวิญญาณและวิบากกรรมโดยตรง
ผลกรรมอันเกิดจากการทำแท้งมี 2 ข้อคือ
1. กรรมที่ทิ้งลูกตัวเอง
2. กรรมในการฆ่าทำลายชีวิต


ซึ่งอกุศลกรรมนี้พระไตรปิฎกได้กล่าวไว้ชัดเจนว่าผู้ที่ทำแท้งเมื่อสิ้นใจยังต้องตกนรก พ้นจากนรกจึงเกิดมาเป็นเปรต จากนั้นจะเป็นอสุรกาย ตนเมื่อมีบุญพอจะเกิดเป็นคนแต่ต้องถูกพ่อแม่ทอดทิ้งแต่เล็กหรือโโนพ่อแม่ของตนในชาติต่อไปทำแท้งตัวเองเสียหรือแท้งลูกโดยอุบัติเหตุ

สังคมไทย


"พบศพเด็กจากการทำแท้ง 348 ศพ" เป็นข่าวใหญ่ระลอกแรกที่ "ช็อก" คนไทยทั้งประเทศให้ตกอยู่ในอาการ "สยดสยอง-สลดหดหู่" ยังช็อกชาวโลกอีกด้วย เพราะข่าวนี้ถูกเผยแพร่ออกไปทั่วโลก จากสำนักข่าวยักษ์ใหญ่ของโลกทุกสำนัก
แต่ "ข่าวระลอกสอง" กลับสยดสยองยิ่งกว่าอีกหลายเท่า จนทำให้คนไทยตกอยู่ในภาวะ "อึ้งจนไปไม่ถูก" เมื่อสัปเหร่อสารภาพมากขึ้น แล้วตำรวจไปเปิดโกดังเก็บศพทั้งหมดพบอีก 1,654 ศพในวัดเดียวกัน คือ "วัดไผ่เงิน" ที่อยู่ใจกลางกรุงเทพมหานคร
คำถามที่ควรจะถามต่อไป คือ สังคมมีความมั่นใจมากแค่ไหน ว่า นอกเหนือจาก "วัดไผ่เงิน" ที่อยู่ใจกลางเมืองหลวงแล้ว จะไม่มีสัปเหร่อวัดอื่นอีกทั่วประเทศกว่า 35,000 วัด มีพฤติกรรมเหมือนกับสัปเหร่อวัดไผ่เงิน คือ หาลำไพ่พิเศษให้ทำลาย "ศพเด็ก"

จากตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 305 อนุญาตให้หญิงมีครรภ์ทำแท้งได้โดยไม่ผิดกฎหมายเพียง 2 กรณี คือ การถูกข่มขืนและการเกิดอันตรายต่อหญิงตั้งครรภ์และบุตร ทำให้การทำแท้งกรณีอื่นๆ เป็นเรื่องผิดกฎหมายทั้งหมด ซึ่งในชีวิตจริงได้สร้างปัญหาต่อเนื่องมากมายกับหญิงสาวที่ตั้งครรภ์โดยไม่ มีความพร้อม หรือไม่ได้ต้องการลินิกทำแท้งเถื่อน

สังคมไทยเป็นสังคมชาวพุทธที่ดูเหมือนจะเคร่งครัดทางศีลธรรมมากๆ แต่ศพเด็ก 2,002 ศพ เป็นการ "ตบหน้า" และ "ประจาน" คนไทยทั้งประเทศให้ตื่นขึ้นมายอมรับความจริงเสียทีว่าสังคมไทยไม่ได้สูงส่งทางศีลธรรมใดๆ เลย
แท้จริงแล้ว เป็นสังคมหน้าไหว้หลังหลอก ที่มักไม่ยอมแก้ปัญหาความเสื่อมโทรมทางศีลธรรมที่หมักหมมมานานในหลายๆ เรื่อง การปล่อยปละหญิงท้องไม่มีพ่อให้แก้ปัญหาด้วยตัวเองจน "ศพเด็ก 2,002 ศพ "เน่าเฟะออกมาหลอกหลอนมากมายขนาดนี้

สังเกตอารมณ์ของสังคมยังดู "ด้านชา" ไม่ค่อยเกิดความรู้สึกทุกข์ร้อนว่าเป็นปัญหาเร่งด่วนสำคัญระดับชาติ หรือถือเป็น "วาระทางศีลธรรมแห่งชาติ" ที่จะต้องลงมาช่วยกันแก้ไข ระวังไว้เถอะ "ศพเด็ก" อีกปีละนับแสนศพ อาจจะลุกขึ้นมาทวงสิทธิการมีชีวิตอยู่ หากพวกเรายังไม่กล้าเผชิญปัญหาแล้วหาทางแก้ไข

วันจันทร์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

สำนวนภาษาอังกฤษกล่าวขอโทษง่ายๆ

สำนวนภาษาอังกฤษที่เราใช้กล่าวขอโทษกันมีหลายสำนวน ผู้เขียนจะขอหยิบยกมาให้นำไปใช้กันตามที่นิยมและใช้แพร่หลายกันก็พอนะคะ ขืนจำไปมากจะสับสน
ก่อนที่จะใช้สำนวนกล่าวคำขอโทษ เรามาดูศัพท์ภาษาอังกฤษที่มีความหมายว่าขอโทษ ยกโทษ ซึ่งความหมายของศัพท์แต่ละคำนั้นคล้ายคลึงกันและใช้ในการขอโทษเหมือนกันแต่ต่างกันตรงโอกาสและสถานะของการใช้นะคะ
คำแรกคือคำว่า apologize v. (อะพ็อลโลไจซ) : หมายถึงการขอโทษ เพราะผู้ขอเกิดความสำนึกและยอมรับว่า ได้ทำได้ทำวามยุ่งยากหรือทำความเจ็บปวดให้กับผู้อื่น เช่น
- I apologized to her for stepping on her foot. ฉันขอโทษที่ไปเหยียบเท้าเธอ
- I apologized to him for my error. ฉันขอโทษเขาที่ได้ผิดพลาดอะไรไปบ้าง
เวลาเราใช้คำว่า apologize ในการขอโทษ เราจะใช้สำนวนหระโยค ที่ว่า
I apologize to ..........(ผู้ที่เราต้องการขอโทษ) เรื่องที่เรfor .......(v+ing.........(เรื่องที่เราทำผิด)
หรือ apologize for ................. (เรื่องที่เราต้องการขอโทษ) เช่น
May I apologize for coming late. ฉันขอโทษที่มาสายนะคะ
คำต่อไปคือคำว่า forgive v. (ฟอกิฟว) : หมายถึงการให้อภัยหรือยกโทษให้กับผู้ที่ล่วงเกินตนเป็นเหตุให้เกิดอารมณ์เคียดแค้นขึ้นในใจ และเมื่อมีการขอโทษให้อภัยแล้วก็จะได้สบายใจทั้งสองฝ่าย เช่น
- He forgive me for being late. เขาให้อภัยฉันที่มาสาย
- I was pleased to forgive him for what he said to me at the meeting yesterday.
ฉันยินดีที่จะให้อภัยเขาต่อสิ่งที่เขาได้พูดถึงฉันในที่ประชุมเมื่อวานนี้
คำต่อไปคือคำว่า excuse v. (เอ็กซคิวส์) : หมายถึงการยกโทษหรือการให้อภัยในความผิดเล็กๆน้อยๆ ซึ่งเป็นมารยาทในด้านสังคมหรือประเพณี เช่นการพูดขอทางผ่าน การลุกเดินเหินนั่งแล้วไปเบียดหรือเฉี่ยวชนใครเข้าโดยไม่ตั้งใจใช้ excuse เช่น
- Excuse me for not recognising you. ขอโทษนะคะที่จำคุณไม่ได้
- Please excuse me for miscalling you. ขออภัยด้วยนะคะที่เรียกชื่อคุณผิด
- Please excuse for the way to go outside. ขอโทษนะคะขอทางออกไปหน่อย

คำสุดท้ายคือคำว่า pardon v. (พาดัน) : หมายถึงการขอโทษหรืออภัยโทษ นิยมใช้เมื่อโทษนั้นเป็นโทษหนัก เช่นการทำผิดกฎหมาย หรือผิดศีลธรรมแต่บางครั้ง ก็นำมาใช้ในความหมายว่าไม่ได้ยิน หรือได้ยินไม่ชัด ขอให้พูดใหม่อิกครั้งได้ไหม เหล่านี้เป็นต้น เช่น
- Fifty prisoners were pardoned. นักโทษ 50 คนได้รับอภัยโทษแล้ว
- Pardon me. Will you please say it again. ขอโทษนะคะ กรุณาพู
ดอีกครั้งได้ไหม หรืออาจจะกล่าวสั้นๆ หลังจากต้องการให้ผู้พูด พูดอีกครั้ง คือ
- Pardon me.
เอาละเรารู้ความหมายของแต่ละคำแล้ว เลือกใช้ได้ตามความผิดนะคะ อิอิ ต่อไปเป็นสำนวนที่เรามักจะใช้พูดขอโทษกัน ตามนี้เลยค่ะ
1) Excuses and Apologies การกล่าวคำขอโทษ สำนวนที่ใช้กันมากๆ มีตามนี้จ้ะ

- Excuse me. ขอโทษครับ (ค่ะ)
- Pardon me. ขอโทษครับ (ค่ะ)
- Excuse me for being late. ขอโทษทีฉันมาช้า
- I'm so sorry. ฉันขอโทษเป็นอย่างสูง
- I'm very sorry. ฉันขอโทษเป็นอย่างมาก
- I'm very sorry for not coming yesterday. ฉันเสียใจมากๆที่ไม่ได้มาเมื่อวานนี้
- I'm sorry to have kept you waiting. ฉันต้องขอโทษด้วยที่ทำให้คุณรอ
- I'm sorry I can't help you. ฉันต้องขอโทษด้วยที่ช่วยคุณไม่ได้
- I'm sorry to have troubled you. ฉันต้องขอโทษด้วยที่ทำให้คุณยุ่งยาก
- I apologize for breaking my promise. ฉันต้องขอโทษด้วยที่ผิดสัญญา
- It's my fault. มันเป็นความผิดของฉันเอง
- How stupid of me! ฉันช่างโง่เง่าเสียเหลือเกิน
- I'm sorry I'm late. ขอโทษด้วยที่ฉันมาสาย

2) เมื่อมีผู้กล่าวคำขอโทษเรา การตอบรับก็ถือเป็นมารยาทอันสำคัญของเรานะคะ มิเช่นนั้นจะดุเป็นการผิดมารยาทและเหมือนจะไม่ต้องการคำขอโทษอะไรแบบนั้น ห้าๆๆ เดี๋ยวจะคบกันต่อไม่ได้นะจะบอกให้ เอ้อ การตอลรับคำขอโทษที่ติดๆปากทั่วไปมีตามนี้ค่ะ
- That's all right.
- Of course.
- Certainly.
- It's nothing at all.
- Forget it.
- Don't worry about it.
- It's wasn't your fault.
- It doesn't matter
.
ทั้งการกล่าวคำขอโทษ และการตอบรับที่นิยมใช้กันก็มีประมาณนี้แหละค่ะ แต่จริงๆมีมากสำนวนกว่านี้นะคะ เพียงแต่ เราเอาที่ใช้และได้ยินกันบ่อย ๆ ก็พอค่ะ หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์บ้างนะคะ

50 วิธีในการรีไซเคิล

1. แปรงสีฟันเก่าใช้แล้วอย่าทิ้ง นำมาจุ่มยาสีฟันทาให้ทั่วรองเท้าผ้าใบที่ซักแล้ว จะทำให้รองเท้าผ้าใบใหม่ขึ้น
2. ถังขยะที่ใช้แล้วมีกลิ่น ให้ใส่เปลือกส้ม เปลือกมะนาว หรือลูกเหม็นจะทำให้หายเหม็น
3. ลูกเทนนิสเก่าไม่ใช้แล้ว ผ่าเอาฝอยขัดหม้อมาใส่ เพื่อใช้สำหรับขัดหม้อ จะช่วยให้ถือได้สะดวก
4. อยากทำให้รองเท้าหนังคู่เก่าดูใหม่ ให้หยดน้ำมันไฟแช็ค 2-3 หยด ลงบนรองเท้า ใช้ผ้าชุบน้ำมะนาวขัดอีกที รับรองคุณจะได้รองเท้าคู่เก่งคู่ใหม่ในทันทีทันใด
5. ทำความสะอาดโคมไฟ โดยการนำแปรงสีฟันเก่าไม่ใช้แล้วมาถูให้ทั่ว แล้วเป่าด้วยเครื่องเป่าผม
6. พลาสติกที่ใช้แล้วอย่าทิ้ง นำมาห่อเครื่องเงินจะป้องกันไม่ให้เครื่องเงินดำ
7. เครื่องหนังเก่า ๆ ให้ทำความสะอาดโดยใช้ฟองน้ำชุบน้ำสบู่ถูให้ทั่ว ใช้ผ้านุ่ม ๆ ชุบน้ำบิดพอหมาดถูให้ทั่ว แล้วใช้ผ้าแห้งเช็ดให้แห้งโรยด้วยแป้งฝุ่น
8. กลักฟิลม์ที่ใช้แล้ว นำมาล้างทำความสะอาด นำกลับมาใส่ยาสำหรับเวลาเดินทางหรือเอาใส่ไม้จิ้มฟัน หรือนำมาบรรจุทรายให้เต็มวางทับกระดาษ หรือเจาะรูใส่พริกไทยป่นหรือเกลือป่นได้
9. ถ้าจานเซรามิกมีรอยร้าว สามารถซ่อมให้ดีได้ ให้นำจานไปแช่น้ำนมอุ่น น้ำนมจะช่วยประสานรอยร้าวได้
10. ขวดสเปรย์พลาสติกที่มีอยู่มีวิธีนำไปใช้ให้มีประโยชน์ เช่น ฉีดน้ำให้ความชุ่มชื้นกับต้นไม้ ฉีดน้ำให้ผ้าชื้นก่อนรีด ฉีดน้ำยาซักผ้าก่อนนำไปซัก
11. ถุงพลาสติกที่ได้มาพร้อมกับการซื้อของอย่าทิ้ง ให้นำมายัดเบาะหรือหมอนเหมือนนุ่น สำหรับเป็นเบาะรองนั่งเก้าอี้เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม
12. ฝาพลาสติกจากกระป๋องกาแฟ สามารถนำมาตักอาหารเล็ก ๆ ได้หลายอย่าง เช่น ส้ม แอปเปิ้ล หัวหอม หรืออาหารนิ่ม ๆ ได้หรือนำมารองก้นขวดน้ำเชื่อม ขวดน้ำมัน บนชั้นวางของหรือในตู้ จะช่วยทำความสะอาดชั้นได้ง่ายขึ้น
13. ถ้ามีแผ่นยางโฟมเหลืออยู่ให้ตัดออก ทำแผ่นรองหัวเข่า เพื่อใช้ในการทำงานในสวนจะช่วยรักษาเข่าให้ปลอดภัย
14. ทำกระถางต้นไม้จากยางรถยนต์เก่า นำยางรถยนต์มาวางใส่ดินวางเรียงไว้ตรงบ้าน ปลูกพวกสะระแหน่ พริก มะเขือ ใบโหระพา หรือจะปลูกดอกไม้ให้ดอกสวยงาม
15. ถุงพลาสติกที่ใส่ขนมปังหรือใส่ผัก ผลไม้ อย่าทิ้ง ให้นำมาใส่ขยะเปียกได้อย่างดี ใส่ขยะชื้นลงในถุง ปิดด้วยการปิดม้วนปากจะทำให้ถังขยะไม่มีกลิ่น
16. กล่องโฟมพลาสติกที่ใส่ไข่ เป็นช่อง ๆ เก็บไว้ใส่ตะปู ตะขอและหมุดไว้ในห้องเก็บของทำให้หาใช้สะดวก
17. แผ่นอลูมิเนียมฟลอย์ที่ใช้แล้วยับยู่ยี่ อย่าทิ้ง นำมาใช้ทำความสะอาดตะแกรงปิ้งอาหารได้อย่างดี เพราะจะช่วยขจัดอาหารที่ไหม้ติดตะแกรงออกได้อย่างง่ายดาย
18. ขวดโคโลญน์เปล่า ๆ อย่าทิ้ง ให้เก็บใส่ลิ้นชัดที่เก็บชุดชั้นในจะเป็นกล่องเครื่องหอมได้เป็นอย่างดี
19. ถุงกระดาษแวกซ์ที่ใช้ติดมาจากร้านเบเกอรี่ นำมาใส่อาหารเก็บไว้ในตู้เย็นได้
20. เพื่อลดการทำลายสิ่งแวดล้อม ให้ใช้เศษผ้าขี้ริ้วทำความสะอาดสิ่งต่าง ๆ แทนกระดาษทิชชู แล้วนำไปตากให้แห้ง นำกลัลมาใช้ใหม่
21. ถุงพลาสติกที่ได้มาจากการซื้ออาหาร จากท้องตลาดอย่าทิ้ง ให้นำมาล้างให้สะอาดผึ่งให้แห้ง สำหรับเก็บเครื่องครัวที่นาน ๆ ใช้ เช่น เครื่องบด หม้อ จาน ชุดถ้วยกาแฟ เพื่อป้องกันฝุ่นละอองจับเมื่อหยิบใช้จะได้ไม่ต้องล้าง
22. ฝาพลาสติกที่ปิดกระป๋อง อย่าโยนทิ้งให้ล้างน้ำสะอาด นำมาเก็บไว้สำหรับรองก้นกระป๋องอาหารกระป๋องใหม่ เวลานำมาวางบนโต๊ะ กระป๋องจะไม่ขูดโต๊ะให้เป็นรอย
23. ซองพลาสติกที่ใส่สมุดเงินฝาก เมื่อเปลี่ยนสมุดใหม่ นำมาใช้ประโยชน์อื่นได้ เช่น ใส่เครื่องประดับต่าง ๆ ใส่การ์ดโฟนโทรศัพท์
24. กระป๋องกาแฟขนาดใหญ่ ที่มีฝาปิดขวดพลาสติก เมื่อใช้กาแฟหมดแล้ว อย่าโยนทิ้งใช้เป็นขวดใส่คุกกี้ มันฝรั่งทอดเป็นแผ่นบาง ๆ หรือขนมของว่างอื่น ๆ ได้ดี 25. ซองใส่แว่นตาที่ไม่ใช้แล้ว เหมาะที่จะใช้เก็บเข็มถักโครเชต์ กรรไกร หรือเข็มนิตติ้ง
26. นำขวดพลาสติกที่ใช้บรรจุยาเมื่อยาหมดแล้ว มาสับให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่ลงในขวดกาแฟที่ใช้หมดแล้วใส่ทินเนอร์พอท่วม ใช้ไม้คนให้ทั่ว ปิดฝาทิ้งไว้สักคืน จะได้กาวมาใช้ตามต้องการ
27. กระป๋องสี กระป๋องกาแฟ นำมาทำที่สำหรับปลูกต้นไม้ได้อย่างดี
28. โฟมพลาสติกที่ติดมาเวลาซื้ออาหารตามซุปเปอร์มาร์เก็ตไม่ต้องทิ้ง ล้างด้วยน้ำซักฟอกอุ่น ๆ ผึ่งให้แห้ง แล้วตัดให้ได้รูปสำหรับรองถ้วยชามกระเบื้องกันแตก 29. กล่องโฟมนมที่ใช้แล้ว อย่าโยนทิ้ง เก็บไว้เป็นกล่องสำหรับส่งทางไปรษณีย์ เพราะกล่องนี้มีน้ำหนักเบา สามารถใช้แทนกันได้
30. ถุงมือยาง สำหรับใส่ทำงานบ้าน ข้างขวามีรอยขาด ให้ใส่ถุงมือซ้ายกลับด้านในออกมาข้างนอก สามารถใช้แทนกันได้
31. กล่องมาสคาร่าและแปรงขนตาเก่า ใช้แล้วอย่าโยนทิ้ง นำมาใช้สำหรับทำความสะอาดเครื่องเพชรนิลจินดาได้อย่างดี ส่วนกล่องพลาสติกที่บรรจุมาสคาร่าและแปรงอันเล็ก ๆ ล้างแล้วเช็ดให้แห้งใช้สำหรับเป็น กล่องใส่ยาเม็ด เพื่อเก็บไว้ในกระเป๋าถือ
32. หลอดดูดน้ำที่ใช้แล้ว ให้ล้างก๊อกน้ำเก็บเอาไว้นำมาสวมก้านดอกไม้ นำมาปักแจกันจะทำให้ก้านตั้งตรงไม่เอนไปทางใดทางหนึ่งเพราะก้านอ่อน
33. ร่มพลาสติกเก่าแล้ว ถ้าเลิกใช้ไม่ต้องทิ้ง เอามาทำกรีนเฮาส์ได้ สำหรับต้นไม้ในร่มที่ต้องการความชื้นสูง ปักปลายด้ามร่มลงในดินหาก้อนหินมายึดให้แน่น คุณจะได้กรีนเฮาส์ขนาดจิ๋ว
34. โฟมที่ใส่มาในขวดยา หรือตามกล่องต่าง ๆ อย่าโยนทิ้ง ให้วางโฟมสัก 2-3 ชิ้นลงก้นกระถางต้นไม้ เพื่อปลูกต้นไม้ลงดินแล้วช่วยอุ้มน้ำอย่างดี
35. แปรงสีฟันเก่าที่เลิกใช้แล้ว นำมาถูสิ่งสกปรกตามซอกมุมที่มือเข้าไปไม่ถึงเช่น ซอกรองเท้า
36. ถ้วยไอศกรีม ถุงพลาสติก เจาะรูที่ก้นนำมาเพาะชำต้นไม้เมื่อเอาลงดินก็ง่าย ประหยัดเนื้อที่ ไม่หนักแรงเวลาขนย้าย ราคาถูกกว่า กระถางดิน
37. ริบบิ้นที่แก้จากห่อของขวัญ ถ้าต้องการนำมาใช้อีก ให้ม้วนไว้กับแกนกระดาษแข็ง แยกเป็นสี ๆ เมื่อต้องการนำมาผูกห่อของขวัญใหม่จะได้หยิบใช้ได้สะดวก ถ้าริบบิ้นที่จะนำมาใช้ใหม่มีรอยยับยู่ยี่ ให้นำไปแช่น้ำอุ่นผสมน้ำตาลทราย 1 ช้อนชา แล้ววางบนผ้าทิ้งไว้หมาด ๆ จึงเอามารีดด้วยเตารีดไฟอ่อน ๆ จะได้ริบบิ้นที่เรียบสวยนำมาใช้ได้ทันที
38. เศษโฟมที่เหลือจากการใช้แล้ว อย่าทิ้งให้นำมาผสมกับน้ำมันเบนซินหรือทินเนอร์ คนให้เข้ากันเป็นยาง ใช้สำหรับอุดหลังคาสังกะสีที่รั่ว หรือฝารอยแตกของหลังคากระเบื้อง เมื่อแห้งแล้วจะทำให้ติดกันสนิท ใช้สำหรับเป็นกาวก่อกระเบื้องที่แตกหรือใช้ทายางที่ติดขอบประตูรถได้แน่นหนาดี
39. ไม้เกาหลังพลาสติกเก่า ๆ ที่ไม่ใช้แล้วอย่าโยนทิ้ง ให้นำมาโกยขี้ผงใบไม้ร่วง ใส่ที่ตักขี้ผงได้เป็นอย่างดี
40. ขวดฉีดน้ำหอม เมื่อใช้น้ำหอมหมดแล้วให้นำมาใส่ยากันยุง ใช้เหมือนกับกระป๋องฉีดยากันยุง
41. กล่องใส่นม ถ้วยไอศกรีม เมื่อใช้ดื่มและรับประทานหมดแล้ว อย่าโยนทิ้ง ให้นำมาล้างให้สะอาดเก็บเอาไว้ใส่น้ำแช่ในตู้เย็นในช่องแช่แข็ง เพื่อทำน้ำแข็ง ซึ่งสะอาดกว่าน้ำแข็งที่ไปซื้อจากร้าน
42. ถุงมือยางที่รั่ว ให้ใช้น้ำยาทาเล็บแต้ม จะทำให้หายรั่วและใช้ได้ต่อไป
43. ฟองน้ำที่เสียอย่านำไปทิ้ง ให้นำมาใช้ประโยชน์ เพื่อความชุ่มชื้นกับดิน ให้นำมาวางบนกระถางหรืออยู่ใต้ดินที่ดินทับอยู่ ฟองน้ำจะอมน้ำไว้ไม่ให้ไหลซึม เมื่อเวลารดน้ำ จะช่วยเก็บความชุ่มชื้นไว้ในดิน
44. ผ้าม่านพลาสติก ในห้องน้ำที่ไม่ใช้แล้วนำมาตัดทำเป็นผ้ากันเปื้อนเวลาจะวาดรูประบายสี หรือทาสีหรือเวลาเก็บกวาด ทำความสะอาดบ้าน
45. แกนหลอดด้ายขนาดใหญ่ เมื่อใช้หมดแล้ว ใช้เป็นที่สำหรับเก็บสายไฟ สายทีวีได้เป็นอย่างดี โดยเอาปลั๊กยัดไว้ตรงแกน แล้วพันสายรอบ ๆ ตัวแกน
46. กล่องแปรงสีฟันพลาสติก อย่าโยนทิ้ง นำมาใช้สำหรับเก็บกิ๊บติดผม กระดุม หรือเข็มหมุดเล็ก ๆ แยกไว้เป็นพวกได้อย่างดี
47. เทียนตั้งโต๊ะอาหารที่เหลือจากการใช้แล้ว อย่าทิ้งให้เก็บเอาไว้ เมื่อเวลาต้องการใช้ใหม่ ให้ใช้มีดคม ๆ เฉือนแต่งน้ำตาเทียนที่เกาะติดตัวไส้ดำทิ้ง และเกลาตรงปลายเทียนเสียใหม่ให้ได้รูป สามารถนำมาใช้แต่งดอกไม้ให้สวย เพื่อตั้งโต๊ะใหม่ได้อีก
48. ถุงมือยางที่ใช้ไม่ได้แล้ว อย่าทิ้ง เอามาตัดเป็นท่อน ๆ จะได้ยางหนังสติ๊กหลายเส้นหลายขนาด เก็บไว้รัดห่อของได้ตามที่ต้องการ
49. ตาข่ายห่วงบาสเก็ตบอล เมื่อเก่าและต้องการเปลี่ยนใหม่ ให้แก้ปมออกให้หมด จะได้เชือกที่เหนี่ยวทนทาน เก็บเชือกไว้ห่อมัดพัสดุกล่องต่าง ๆ
50. หลอดด้ายเปล่าให้เก็บไว้หลาย ๆ อัน สวมบนราวแขวนเสื้อในตู้เสื้อผ้า จะทำให้ขอไม้แขวนเสื้อไม่เกยกัน

วันจันทร์ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

เรื่องรักๆ

ถ้ารัก คือ...ฟัน
รักคงมั่นคือ...ฟันแท้
รักร่อแร่ คือ...ฟันโยก
รักโสโครก คือ...ฟันดำ
รักถลำ คือ...ฟันเหยิน
รักหมางเมิน คือ...ฟันห่าง
รักร้างคือ...ฟันหลอ
รักหงิกงอ คือ...ฟันกุด
รักบริสุทธิ์ คือ...ฟันขาว
รักชั่วคราว คือ...ฟันปลอม
รักอ่อนซ้อม คือ...ฟันร่วง
รักสีม่วง คือ...ฟันเก
รักจำเจ คือ...ฟันซ้อน
รักสลอนคือ...ฟันแทรก
รักแรก คือ...ฟันน้ำนม
รักระบมคือ...ฟันผุ
รักคิกขุ คือ...ฟันกระต่าย
รักสลายคือ...ฟันหลุด
รักชำรุดคือ...ฟันสึก
รักเจ็บลึก คือ...ฟันคุด
รักตุ๊ด คือ...ฟันหนุ่ม
รักทั้งกลุ่ม คือ...ฟันหมด
รักสลด คือ...ฟันพลาด
รักต่างชาติ คือ...ฟันฝรั่ง
รักปิดบัง คือ...ฟันชู้
รักอุดอู้ คือ...ฟันช้า
รักกะฮาคือ...ฟันเล่น
รักไม่เป็นคือ...ฟันดะ
รักเธออยู่เสมอ จริงๆ นะ...ฟันธง

ขำขัน

หนุ่มๆ คงต้องคิดหนักแน่ ถ้าคิดจะมีภรรยา 5 อาชีพนี้

1. พวกนักกีฬา...เพราะว่าพวกนี้ วันๆ จ้องแต่จะทำลายสถิติอยู่บ้านเฉยๆ ก็สะกิดแล้ว...
"หมู่นี้สถิติตกไปนะพี่ขา มาทำลายสถิติกันเถอะคะ"

2. พวกครู...พวกนี้จะชอบสอนเป็นนิสัย สอนเสร็จก็จะถามว่าเข้าใจไหมถ้าตอบว่าเข้าใจ ก็จะให้การบ้านไปทำทั้งที่เหนื่อยจะแย่โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าหล่อนเป็นครูอนุบาลด้วยแล้ว หล่อนจะชอบพูดว่า...
"เก่งมากกกกค่าาาาา....เอาาาอีกกกกก"

3. พวกพยาบาลทั้งหลาย....พวกนี้วิตกจริตครับ รักความสะอาดชอบถามว่าล้างแล้วหรือยัง ถ้าบอกว่าล้างแล้ว ก็จะถามต่อว่าแล้วลวกน้ำร้อนแล้วหรือยัง เช็ดแอลกอร์ฮอลล์แล้วหรือยัง...
แล้วคุณจะไปเช็ดไหมหล่ะครับ

4. พวกพนักงานโอเปอร์เรเตอร์...เพราะเวลาที่เราต้องการหล่อนจะชอบบอกว่า
"กรุณารอสักครู่ค่ะ"

5. พนักงานแคชเชียร์...พวกนี้ชอบติดป้ายว่า ...
"กรุณาใช้ช่องถัดไป"

รูปสระว่ายน้ำ