วันพฤหัสบดีที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ทายใจ จากการส่องกระจก




เชื่อว่าก่อนที่จะก้าวเดินออกจากบ้าน คนเราจะต้องส่องกระจกตรวจเช็คความเรียบร้อยของตัวเองกันก่อนทุกครั้งใช่ไหมจ๊ะ ซึ่งรู้กันบ้างรึเปล่าว่าท่าทางที่เราแสดงออกไปเมื่อยืนอยู่หน้ากระจกนั้น สามารถบ่งบอกนิสัยของเราได้ด้วย โดยถ้าแสดงสีหน้าแบบ...


ท่าทางทะเล้น :: เป็นคนขี้เล่น มีชีวิตที่สนุกสนาน สดใสตลอดเวลา มีมนุษย์สัมพันธ์ดี เพื่อนฝูงมากมาย มีความห้าวหาญ ไม่กลัวใคร กล้าที่จะเผชิญกับปัญหาทุกรูปแบบ ไม่ชอบที่จะอยู่ภายใต้คำสั่งของใคร มีความเป็นตัวของตัวเองสูง

ส่งยิ้มให้กับตัวเอง :: มีนิสัยน่ารัก เป็นแม่พระในหมู่เพื่อนฝูงและคนรอบข้าง รักเพื่อน ชอบให้ความช่วยเหลือ คอยเป็นห่วงเป็นใย และพร้อมที่จะแบ่งปันความรู้สึกดีๆ ให้กับคนรอบข้างอยู่เสมอ


เด็กดีดอทคอม :: ทายใจจาก...การส่องกระจก



ตีหน้าเครียด :: เป็นคนเอาการเอางาน จริงจังกับชีวิต ไม่ชอบที่จะปล่อยเวลาให้เสียไปโดยเปล่าประโยชน์ พยายามหาอะไรทำอยู่ตลอดเวลา ไม่ชอบที่จะอยู่นิ่งเฉย และจะไม่ยอมทำสิ่งใดที่รู้ว่าไม่เป็นประโยชน์ต่อตัวเอง




แอบปลื้มตัวเองในกระจก :: มีอารมณ์ศิลปิน ช่างคิด ช่างฝัน ช่างจินตนาการ เป็นคนที่อารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ มีความทะเยอทะยานสูง เมื่อคิดหรือตั้งใจจะทำอะไรแล้ว ก็จะมุมานะทำให้ถึงจุดหมายนั้นให้ได้

เขินอาย ไม่กล้าสบตาตัวเองในกระจก :: เป็นคนขี้อาย แต่มีความยึดมั่นในความคิดของตัวเอง มีอารมณ์สุนทรีย์ อ่อนโยน มีความเป็นตัวของตัวเอง ขยันหมั่นเพียร แต่ก็แอบมีมุมที่ดื้อซ่อนอยู่ในตัวเหมือนกัน

สำรวจตัวเองทุกกระเบียดนิ้ว :: เป็นคนรักสวยรักงาม พยายามเอาใจใส่ตัวเองให้ดูดีเสมอ รักความก้าวหน้า มีความพยายามที่จะผลักดันให้ไปถึงจุดที่สูงสุดที่ต้องการ คล่องแคล่ว ไม่ชอบที่จะอยู่ว่างเฉยๆ มักจะหาอะไรทำอยู่ตลอดเวลา


วันศุกร์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

เรื่องราวของเจ้า Oogy (อูร์กี้)



เรื่องราวของเจ้า Oogy (อูร์กี้)

ตั้งแต่ อูร์กี้ ยังเป็นเด็ก มันถูกเจ้านายของมันที่เปนเจ้าของคอกสุนัข จับให้เป็น คู่ซ้อมให้กับหมาพันธุ์ดุร้ายต่างๆ เพื่อยั่วโมโหก่อนลงสนามจริง จนเรื่องราวรู้ไปถึง สมาคมผู้พิทักษ์สัตว์ในอเมริกา ทำให้ช่วยเหลือ อูร์กี้ออกมาได้ทัน ในสภาพ ที่ไม่มีใบหน้าด้านข้าง ! และไม่มีหู แล้ว ! พบว่าอาการของอูร์กี้ ร้ายแรงกว่าที่เห็นมากนัก กรามและกระดูกแหลก กระโหลกแตกร้าว การผ่าตัดชุบชีวิตใหม่ของอูร์กี้ ใช้เวลานานหลายปี และยังต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดจากจิตแพทย์สุนัข มาช่วยเหลือมันอย่างเต็มที่ที่สุด จากนั้น อูร์กี้ ก็ได้ไปอยู่กับเจ้าของใหม่ที่ยินดีจะดูแลมันไปตลอด และเค้าสัญญาว่าจะดูแลมันเป็นอย่างดี ชดเชยกับสิ่งที่มันได้รับ


















และเรื่องราวของ อูร์กี้ ได้ถูกตีพิมพ์เป็นหนังสือชื่อ Oogy: The Dog Only a Family Could Love ในเวลาถัดมาอีกด้วย
น่าสงสาร อ่านแล้วน้ำตาจะไหล

วันพฤหัสบดีที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

ลักษณะมือ....ทายนิสัย





ยื่นมือซ้าย หรือขวาออกมา หลังจากนั้นก็พินิจพิจารณากันให้ดีๆ ว่ามือขอน้องๆ มีรูปร่างลักษณะอย่างไร อ๊ะๆ กำลังสงสัยกันใช่ไหมว่าเพราะอะไรพี่ปัดถึงให้ดูมือของตัวเอง ก็เพราะลักษณะของมือนั้นสามารถบ่งบอกนิสัยของเราได้!!

มือสี่เหลี่ยมด้านเท่าหรือเกือบเท่า :: แสดงว่าเป็นนักปฏิบัติ ทำมากกว่าพูด จิตใจหนักแน่นมั่นคง แต่ขาดความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น มีความมุ่งมั่นทะเยอทะยาน อดทนต่องานที่ใช้กำลังกายได้ดี ชอบทำงานกลางแจ้ง ไม่ชอบงานที่ต้องใช้ความประณีตละเอียดอ่อน หรือใช้ความคิดวิเคราะห์รายละเอียดปลีกย่อยต่างๆ แต่เป็นคนที่วางแผนระยะยาวได้ดี มีวิสัยทัศน์กว้างไกล ตัดสินใจได้เด็ดขาดไม่โลเล ไม่เปลี่ยนแปลงง่าย ทำอะไรก็มีระเบียบแบบแผนดี ชอบทำตามระเบียบแบบแผนเดิมๆ




มือรูปใบพาย :: ลักษณะฐานมือกว้างกว่าด้านปลายนิ้ว มีความยาวมากกว่ากว้าง เป็นคนอยู่ไม่สุข ชอบคิดชอบทำโน่นทำนี่อยู่ตลอดเวลา มีความคิดสร้างสรรค์ดี กระตือรือร้นอยู่เสมอ แต่ค่อนข้างใจร้อน ทำอะไรอยากเห็นผลเร็วๆ มีโครงการอยู่ในหัวเสมอ ถ้าเนื้อฝ่ามือแข็งจะเป็นช่างและนักบริหารที่ดีได้ แต่ถ้าเนื้อฝ่ามืออ่อนนุ่มเกินไปก็จะเป็นคนคิดมากกว่าทำ ฟุ้งซ่าน ไม่ได้ลงมือทำจริงๆ สักที


มือข้อนิ้วเป็นปุ่มปมโตเห็นได้ชัด :: เป็นคนมีเหตุมีผลดี ควบคุมอารมณ์ได้ดี มีสติปัญญาและความจำดี มีความคิดที่ละเอียดลึกซึ้ง มีจิตวิทยาสูง สนใจในศาสนาและศาสตร์ลี้ลับ มีความอดทนและมานะพยายามเป็นเลิศ เป็นคนพูดจริงทำจริง





มือเรียว :: รูปมือค่อยๆ เรียวลงทางปลายนิ้ว อย่างสวยงาม เป็นคนมีอารมณ์อ่อนไหวง่าย แปรปรวนง่าย ความรู้สึกไว เปลี่ยนแปลงได้ง่าย ไม่ค่อยอดทน เบื่อง่าย ชอบทำอะไรตามใจตัวเอง แต่ปรับตัวให้เข้ากับคนอื่นได้เก่ง มีมนุษยสัมพันธ์ดี เป็นคนมีเสน่ห์ ดูสดใสร่าเริงเวลาที่อารมณ์ดี เวลาอารมณ์เสียก็จะเกรี้ยวกราดไม่มีเหตุผล มีความคิดสร้างสรรค์ดี โดยเฉพาะงานศิลปะทุกแขนง การแสดง ดนตรี และการ ประดิษฐ์สิ่งของสวยงามที่มีความละเอียดประณีต มีลางสังหรณ์ที่ดี




มือบอบบางมาก :: รูปมือยาวแคบและดูบอบบางมากๆ เป็นคนที่คิดฝันมีจินตนาการสูงมาก สุภาพเรียบร้อย อ่อนโยน ไม่ชอบความรุนแรง เชื่อคนง่าย และมีร่างกายที่อ่อนแอ ไม่ชอบทำงานที่ใช้กำลัง มีความรู้สึกที่ไวมาก มีลางสังหรณ์ดีเยี่ยม คาดการณ์เหตุการณ์ล่วงหน้าได้ดี



“มือ” ถือว่าเป็นอวัยวะที่เราใช้บ่อยที่สุด

ไม่ว่าจะเป็นการหยิบ จับสิ่งของ การเขียนหนังสือ ฯลฯ

ดังนั้นจึงไม่ควรลืมทำความสะอาด และทาครีมปกป้องมือคู่สวยของตัวเองด้วยนะจ๊ะ

วันอังคารที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2554

Creative Foody People Art










































































กินถั่วดีต่อสุขภาพ



อาหารว่างที่ดีต่อสุขภาพอย่างหนึ่ง คือ ถั่วชนิดต่างๆ ไม่เช่นนั้นแล้ว ทางโภชนาการคงไม่แนะนำให้กินถั่ววันละหนึ่งกำมือเพื่อลดความเสี่ยงปัญหาสุขภาพ สำหรับสรรพคุณเด่นๆ ของถั่วเป็นอย่างไรบ้างนั้น เกร็ดความรู้มีมาบอก



เริ่มจากประโยชน์ในการรักษารูปร่าง คนกินอัลมอนด์ วอลนัท แม็กคาเดเมีย บราซิลนัท พีแคน และเม็ดมะม่วงหิมพานต์ เป็นประจำจะมีรูปร่างที่ผอมกว่าคนที่ไม่กิน เนื่องจากมีใยอาหาร อีกทั้งสารอาหารหลายชนิดในถั่วช่วยลดการดูดซึมไขมัน ทั้งยังทำให้รู้สึกอิ่มท้อง


ถั่วยังมีคุณค่าในการลดคอเลสเตอรอล ด้วยถั่วอัลมอนด์ ที่กินแล้วจะช่วยลดไขมันตัวร้าย และเพิ่มไขมันตัวดี ส่วนพีแคน เพียงกินวันละหนึ่งกำมือ ช่วยลดคอเลสเตอรอลได้ ร้อยละ 11.3



ส่วนสรรพคุณต้านมะเร็ง อยากได้ต้องกินถั่ว วอลนัท พีแคน และบราซิลนัท เนื่องจากมีสารในการชะลอการเติบโตของเซลล์มะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งปอดและต่อมลูกหมาก และมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ สาเหตุการเกิดมะเร็ง


การกินถั่วลิสง และวอลนัท ยังสามารถป้องกันโรคหัวใจ เพราะสารอาหารในถั่วดังกล่าว ช่วยลดปริมาณไขมันตัวร้าย ซึ่งหากมีไขมันชนิดนี้อยู่มากจะเสี่ยงภาวะไขมันอุดตันเส้นเลือด และภาวะหลอดเลือดแข็ง นอกจากนี้ในผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรงดี หากกินถั่วเป็นประจำจะช่วยลดโอกาสเสียชีวิตจากโรคหัวใจได้ร้อยละ 50 เมื่อเทียบกับคนไม่กินถั่ว


นอกจากนี้ ถั่วลิสง และวอลนัท ช่วยลดเสี่ยงโรคเบาหวาน และดีต่อผู้ป่วยโรคเบาหวานอยู่แล้ว เนื่องจากช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและอินซูลิน ดีต่อสุขภาพ ป้องกันโรคได้อย่างนี้




กินถั่วแทนขนมขบเคี้ยวรสหวานกันดีกว่า

แนะการใช้ชีวิตอย่างปลอดภัยในช่วงน้ำท่วม




แนะการใช้ชีวิตอย่างปลอดภัยในช่วงน้ำท่วม



กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแนะการใช้ชีวิตอย่างปลอดภัยในช่วงน้ำท่วมโดยห้ามใช้ยานพาหนะ เช่น รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ในการอพยพหนีน้ำท่วมอย่างเด็ดขาด เพราะความแรงของกระแสน้ำอาจพัดพาหนะจมน้ำ รวมถึงหลีกเลี่ยงการเดินข้ามลำน้ำที่มีระดับน้ำสูงเหนือเข่าและไหลเชี่ยวกราก เพราะอาจถูกน้ำพัดหรือได้รับอันตรายจากท่อนไม้ ก้อนหิน ที่ลอยมาตามน้ำได้ หลีกเลี่ยงการเดินลุยน้ำหรือพายเรือเข้าใกล้เสาไฟฟ้า เพื่อป้องกันอันตรายจากไฟฟ้าดูด รวมถึงไม่เข้าไปในบริเวณทางน้ำไหลผ่านหรือร่องน้ำ โดยเฉพาะบริเวณที่มีรอยแยกของหน้าดิน เพราะหากมีฝนตกลงมาซ้ำ ดินอาจอุ้มน้ำไว้ไม่ไหวและพังถล่มลงมาได้



อีกทั้งไม่ลงเล่นน้ำหรือจับปลาในบริเวณที่น้ำท่วม เนื่องจากความแรงของกระแสน้ำอาจพัดพาให้จมน้ำเสียชีวิตได้ เพิ่มความระมัดระวังสัตว์มีพิษที่อาจหนีน้ำขึ้นมาอาศัยอยู่ในบ้านเรือน เช่น งู ตะขาบ ควรสวมรองเท้าบู๊ตทุกครั้งที่ต้องเดินลุยน้ำ เพื่อป้องกันการเหยียบเศษวัสดุที่อยู่ใต้น้ำ เช่น เศษแก้ว กระเบื้อง ตะปู



หากต้องเดินลุยน้ำในช่วงกลางคืนควรใช้ไฟฉายและถือไม้นำทางตลอดเวลา เพื่อป้องกันการเดินตกท่อระบายน้ำที่น้ำท่วมจนมองไม่เห็น ในการช่วยเหลือคนตกน้ำให้ใช้ห่วงยาง ลูกมะพร้าว หรือโยนเชือกให้คนที่ตกน้ำยึดตัวเองไว้ จะปลอดภัยมากกว่าการลงไปช่วยด้วยตัวเอง ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่ที่ประสบอุทกภัยสามารถขอความช่วยเหลือที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด หรือสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง

วันอังคารที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2554

บทความที่ทำให้คุณรักในหลวงมากขึ้น

ไปเที่ยวห้องไกลบ้านมา เจอบทความ " ในหลวงฯในสายตาของ ชาวต่างชาติ "

ไปเที่ยวห้องไกลบ้านมา เจอบทความ " ในหลวงฯในสายตาของ ชาวต่างชาติ "

ได้อ่านบทความนี้จากเพื่อนใน FB ค่ะ เลยอยากจะเอามาแบ่งปันให้เพื่อนๆ พี่ๆ ลุง ป้า น้า อา ในห้องได้อ่านกันด้วยค่ะ


จากคุณ Pattama Fumfuang

ขอบคุณมาก ซึ้งจริงๆซึมเลยเรา เราคนไทยเองยังไม่คิดลึกซึ้งเท่านี้เลย ขออนุญาตส่งต่อนะคะอยากให้ทุกคนได้อ่าน

ในหลวงฯในสายตาของ ชาวต่างชาติ

ไหน จะเขมร พม่า น้ำท่วม พายุ คลิป เสธหนั่น การประท้วง.. ที่สำคัญการโพสต์ข้อความหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ตามหน้าwall และในหลายเว็ปไซ ด์....พาทั้งผมและคนไทยเครียดกันเป็นแถบๆ ถ้าไม่ให้ตกเทรนคงต้องคุยกันแต่เรื่องพวกนี้ แต่วันนี้มีเรื่องเล่าให้หายเครียดกับบรรยากาศบ้านเมือง แต่คนทำให้หายเครียดกลับไม่ใช่คนไทย กลายเป็นคนต่างชาติไปซะนี่...แปลก ซึ้ง แต่เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับตัวเอง...ถ้ามีฝีมือใ นการถ่ายทอดพอคงได้ เห็นน้ำตาซึมออกมา เพราะความปีติอีกครั้ง...ตามมาครับ



เมื่อวัน ก่อน พอดีมีโอกาสต้อนรับนักธุรกิจชาวอังกฤษหนึ่งท่าน ที่มาตามงานที่เขาสั่งไว้..ตามภาษาคนทำ ธุรกิจเลยต้องรับขับสู้ให้ดี ที่สุดเพื่อโชว์ความเป็นคนไทยที่มีน้ำใจ....เรื่องมันเกิดขึ้นบนโต๊ะอาหาร มื้อค่ำครับ....เราก็ทานกันไปตามปรกติมาอีตอน ท้ายๆการสนทนาครับ...จำได้ว่า เราคุยกันเรื่องการลงทุนนี่แหละครับ...อยู่ดีๆ ฝรั่งตาน้ำข้าวก็พูดขึ้นมา ว่า..."คุณรู้ไหม ทำไมคนต่างชาติหลายๆประเทศทำไมตัดสินใจมาลงทุน ที่เมืองไทย "..เราก็ตอบไป ตามสไตล์คนอยากรู้ว่า ...ไม่รู้ เข้าทางฝรั่งเลยครับ เขาพูดขึ้นมาว่า "ส่วนมาก แล้วจะประเมินกันว่าแรงงานประเภทงานฝีมือคนไทยมี ศักยภาพสูงสุดในแถบเอเซีย สูงกว่าญี่ปุ่นเสียอีก ตอนนี้จะพอมีใช้ได้ก็เวียดนาม แต่ยังห่าง"....แต่นั้นไม่ใช่เหตุผลหลักนะครับ เพราะสิ่งที่นักธุรกิจคนนี้พูดต่ออกมาคือ....."แต่ปัจจัย หลักที่พวกเขา ตัดสินใจมาลงทุนที่เมืองไทยเป็นเพราะ "ในหลวงฯ.."..เริ่มอึ้งไป ชั่วขณะเพราะงง..จึงถามกลับไปว่าทำไมจึงเป็น เพราะ ในหลวงฯ...มาฟังคำตอบชัดๆเลยครับ..

"ก็เพราะ ประเทศคุณมี king of king...(แปลไม่ถูก เพราะหัวใจมันพองโตขึ้นมาในทันใด)...พวกเราเป็น ที่รู้กัน มาตลอดว่าประเทศไทย ไม่ว่าจะมีเรื่องเลวร้ายแค่ไหน มันจะผ่านไปได้ทุกครั้ง แม้นกระทั้งความรุนแรงหรือความแตกแยกทางความคิดใดๆ หากเกิดขึ้น...เพียงในหลวงฯของคุณบอกให้ จบทุกอย่างจะจบ ด้วยความสงบสันติ"...แล้วผมก็ถาม กลับไปว่าตอนนี้เรายังมีปัญหาอยู่เลย..เขา ตอบกลับทันทีว่า "เรื่องการจราจลเผาเมืองที่ผ่านมาเขาตามข่าวมาตลอดด้วยความเป็นห่วง แต่ที่แปลกใจก็คือครั้งนี้ในหลวงไม่ออกมา แต่นั้นทำให้เขารู้ว่า..ความรุนแรงที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ไม่ใช่เรื่องความ"แตกแยก"แต่เป็นเรื่อง"การเมือง" ในหลวงฯจึงไม่เข้ามายุ่งเกี่ยว"......

...จบตอนนี้ผม อึ้ง ทึ่ง สมองสั่งการให้เห็นแสงสว่างขึ้นมาทันทีว่า..จริงด้วยเราหลงทางหรือเปล่าที่ คิดว่าเราแตกความสามัคคี จริงๆแล้วเป็นเรื่องการเมือง ของคนกลุ่มหนึ่งเท่านั้น....คิดได้เท่านั้นทุกอย่างก็หยุดลง เพราะคำว่า"ในหลวง"ที่มี คุณูปการมากมายที่มีต่อคนไทย จนคนไทยอย่างเราเองคาดไม่ถึง นึกไม่ถึงว่าคนต่างชาติมาลงทุนบ้านเราเพราะพระบารมีของพระองค์...ผมกับคุณพ่อเริ่มออกอาการซึมเพราะมันรู้สึกตื้นตัน อย่างบอกไม่ถูกเวลานั้น..... ทุกอย่างแห่งความซาบซึ้งน่าจะจบลงตรงนั้นแต่แล้ว..น้ำตามันซึมออกมาเองอีก ครั้ง...เมื่อตอนคนมาเก็บเงินค่าอาหาร...ในตอนที่ เอาเงินส่งให้พนักงาน...ฝรั่งคนเดิมพูดขึ้นมาอีก ว่า....

"คน ไทยนี่โชคดีจริงๆนะ จะอยู่ที่ไหน จะทำอะไร มีในหลวงฯคอยติดตามเฝ้าดูอยู่อย่างใกล้ชิดตลอดเวลา"....ผมกับพ่อ หันไปมอง คราวนี้พ่อผมถามเองเลยว่า..คุณรู้ได้อย่างไร เขาตอบกลับทันทีเลยว่า...."ก็ผมเห็น ธนบัตรไทยมีรูปในหลวงฯของพวกคุณอยู่ ทุกๆใบแม้นกระทั่งในเหรียญที่มีค่าน้อยที่สุดถึงมีค่ามากที่สุดในธนบัตร เห็นเป็นอย่างนี้มาหลายสิบปีแล้ว ดังนั้นเวลาคนไทยไปไหน ในหลวงฯจะอยู่กับคนไทยตลอดเวลา ไม่เคยห่างกัน ผมยังสงสัยเลยว่า ทำไมรัฐบาลคุณไม่ พิมพ์คำว่า.."เรารักในหลวง" ลงไปในธนบัตร.."..ทั้งผม ทั้งพ่อน้ำตากลั้นไม่ ไหวจริงๆครับ มันซึมออกมาแบบไม่อายเลย น้ำลายมันก็กลืนไม่เข้าเวลานั้น....."เท่ห์" มากครับ ที่เกิดเป็นคนไทย หัวใจมันพองโต จนรู้สึกว่าตายกี่ชาติต่อกี่ชาติ ขอให้ได้เกิดเป็นคนไทยทีเถิด....


ส่งแขก เสร็จกลับบ้านกับพ่อสองคน..ตลอดทางไม่พูดกันซักคำ ต่างคนต่างเงียบ ผมก็ได้แต่นั่งคิดถึงคำพูดไอ้ฝรั่งคนนี้มาตลอดทาง มันเป็นความสุขที่ได้รับแบบคาดไม่ถึงจริงๆครับ ....พอถึงบ้านจอดรถให้พ่อลงที่หน้าบ้านเห็นแม่มายืนรออยู่...พอพ่อลงรถคำแรก ที่พ่อพูดกับแม่คือ..ถามลูกมันดูซิว่า แกรรี่เค้าพูดถึงในหลวงว่ายังงัย.....จบครับ เป็นอันว่าตลอดทางที่กลับบ้านพ่อผมคิดถึงแต่เรื่องในหลวงฯแน่นอน.....


เรื่อง ทั้งหมดที่เล่าคงอธิบายความรู้สึกที่อยากจะถ่ายทอดทั้งหมดไม่ได้ แต่อยากแบ่งปันครับ....แบ่งปันให้พวกเราเก็บ เรื่องดีๆนี่ไว้ในความทรงจำ เพื่อแบ่งปันกันต่อจากรุ่นสู่รุ่น...ไม่น่าเชื่อนะครับว่า คนอื่นมองเห็นเราชัดเจนกว่าตัวเราที่เป็นคนไทย ซะอีก...คำว่า เป็นเรื่อง"การเมือง" ไม่ใช่ เรื่องความ"แตกแยก"....อาจเป็นคำ ตอบให้คนไทยกลับมาคิดทบทวนกันอีก ครั้งว่า..เราแตกแยกกันจริงหรือ..เพราะเรามีพระมหากษัตริย์ที่ประเสริฐที่ สุด จนคนทั้งโลกยังอิจฉาแต่เราบางคนกลับมองไม่เห็น......

เพิ่งรู้ และสัมผัสกับคำว่า หัวใจพองโต...มันคับฟ้าคับแผ่นดิน..จริงๆนะ ครับ..ที่สำคัญคือ..การที่รู้สึก แบบนี้ได้เป็นเพราะ..ผมเป็นคนไทย ที่มีพระมหากษัตริย์ที่ประเสริฐที่สุดเป็น "พ่อของ แผ่นดิน"..พระองค์ฯ ต้องอยู่เป็นมิ่งขวัญให้คนไทยทั้งแผ่นดินตลอด ไป ....จริงไหมครับ..????



ที่มา : http://www.pantip.com/cafe/klaibann/topic/H10706896/H10706896.html

วันพฤหัสบดีที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

49 ข้อดีที่ต้องมีในเน็ต


1. คนรู้เรื่องของคนที่เขาเกลียดดีกว่าคนที่รัก

2. คนชอบถามหาหลักฐาน แต่เวลาตัวเองอ้างมั่งไม่ค่อยจะมีหลักฐาน

3. เขียนยาวไปคนไม่อ่าน

4. เขียนสำนวนเคร่งขรึมคนก็ไม่อ่าน

5. ชาวเว็บไม่ชอบเรื่องซีเรียส ถึงเป็นเรื่องเครียดก็ต้องเขียนให้ฮา

6. ยอดคนคอมเมนต์แสดงความคิดเห็น เป็นเหมือนยอดภูเขาน้ำแข็ง

7. มีคนคอยตามอ่านเงียบๆมากมายที่ไม่โผล่ตัวออกมา

8. บางทีเรื่องที่เถียงกันไม่มีสาระอะไร แต่เถียงกันไปเพราะแค่อยากเอาชนะ

9. ปิดจอคอมไปนอนก่อนซะอาจจะดีกว่านั่งเถียงแบบอินเตอร์แอ็คทีฟ

10. เกรียนปากดีตามเว็บบอร์ด พอเจอตัวจริงมักเจี๋ยมเจี้ยม

11. แต่คนอัธยาศัยดีในบอร์ด ตัวจริงก็อัธยาศัยดีเหมือนกัน

12. มนุษย์สายพันธุ์กูเกิลรู้ทุกเรื่อง แต่ถ้าคุยลึกๆจริงๆแล้วจะไม่รู้สักเรื่อง

13. แถมวิเคราะห์ วิจารณ์ ไม่ได้อีกตะหาก

14. เรื่องดราม่ามักจบลงด้วยคำว่า "ขอโทษ"

15. แต่ถ้ามีเรื่องครั้งใหม่ เรื่องเดิมก็จะถูกขุดโคตรเหง้าศักราชมายำต่อ

16. คำด่าในเว็บ โดยมากมักจะไม่ใช่คำด่าจริงๆที่คนพิมพ์กล้าพูดต่อหน้า

17. คนด่าบางทีก็ลืมไปว่าตัวเองเคยด่าเรื่องอะไรไว้

18. แต่คนถูกด่ามักจะไม่ลืม

19. คอมเมนต์มักถูกชี้นำด้วยความคิดเห็นแรกเสมอ

20. โดยเฉพาะเว็บพันทิป

21. เวลาไพรม์ไทม์ในการตั้งกระทู้ คือ 17.00-22.00

22. แต่เวลาอัพบล็อกจะเป็น 9.00-12.00 และ 19.00-23.00

23. อยากดราม่าให้เริ่มประเด็นต่อไปนี้ การเมือง สถาบันการศึกษา ภาษา ศาสนา ความเชื่อ และ XXX

24. แล้วอีกไม่นานคุณก็จะได้พาดหัวขึ้นดราม่าแอดดิคต์เอง

25. อีกวิธีคือไปหาเรื่องเมมเบอร์ดังๆ

26. เกือบทุกความคิดเห็นพร้อมจะเปลี่ยนข้างเมื่อกระแสเปลี่ยน

27. ทั้งที่ข้อเท็จจริงมันไม่เปลี่ยน

28. คนที่ไม่เปลี่ยนข้างมีสองกรณี คือเกรียน กับ มั่นใจ

29. ซึ่งทั้งสองประเภทแยกออกได้จากลักษณะการใช้คำ

30. คนตั้งกระทู้/เขียนบล็อกมีสามแบบ

31. หนึ่งคือเขียนแล้วทิ้ง กลับมาดูแต่ไม่ให้ความเห็นตอบ

32. สองคือตะบี้ตะบันขยันตอบมันทุกคอมเมนต์ ไม่ว่าจะเป็นคอมเมนต์หาเรื่องหรือคอมเมนต์ดีๆ

33. สามคือเลือกตอบเฉพาะคอมเมนต์ที่พอใจจะตอบหรือมีสาระพอจะตอบ

34. หลายคนอ่านแค่หัวเรื่องแล้วพิมพ์ตอบเลย

35. ซึ่งทำให้เกิดดราม่าหรือเรื่องฮา ขึ้นอยู่กับความซีเรียสของเนื้อหาและคำตอบ

36. แต่หลายคนอ่านจนครบแล้วก็ยังตอบไม่เข้าเรื่อง

37. เรียกว่าอ่านหนังสือไม่แตก เป็นปัญหาของระบบการศึกษาภาษาไทย

38. ทำให้เกิดดราม่ามากมาย หาได้ตามเว็บบอร์ดทั่วไป

39. การเถียงกันบนกระทู้สาธารณะ ไม่ร้ายเท่าการถูกส่งเมล์ด่า เอ็มเอสเอ็นด่า หรือหนักสุดคือโทรตามด่า

40. กรณีดังกล่าวถือว่าเป็นโรคจิตคุกคาม คนที่เคยโดนควรแจ้งตำรวจลงบันทึกประจำวัน

41. อย่าปล่อยให้คนโรคจิตบนเน็ตลอยนวล

42. คนที่อ้างว่าเป็นกลาง ไม่เคยเป็นกลางจริงๆ

43. บางทีคนเลือกข้างยังเป็นกลางกว่า

44. อำนาจโฟโต้ช็อปเหนือทุกสิ่ง

45. แต่ที่เหนือกว่าคือ ICT

46. เพราะประเทศนี้มีระบบกรองข้อมูลจากต่างประเทศระดับสูงที่มีเพียงสามประเทศในโลก

47. ซึ่งอีกสองประเทศคือจีนแดง และเกาหลีเหนือ

48. อย่าซีเรียสกับเรื่องทุกเรื่องที่เกิดขึ้นบนสังคมอินเตอร์เน็ต

49. สุดท้ายแล้วเราก็ต้องทำงานหาเงินมาจ่ายค่าไฟ-ค่าเน็ตเองอยู่ดี

วันอังคารที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ระเบิดปรมาณู 3ครั้งของโลก








16 กรกฎาคม 2488 สหรัฐอเมริกา ทดลองระเบิดปรมาณูครั้งแรกของโลกในทะเลทรายรัฐนิวเม็กซิโก ในชื่อ “แผนปฏิบัติการทรินิตี้” ระเบิดลูกนี้เป็นหนึ่งในสามลูกแรก ที่สร้างขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ภายใต้โครงการสร้างระเบิดอะตอมชื่อ “โครงการแมนฮัตตัน”


6 สิงหาคม ค.ศ. 1945
พันเอกพอล ทิบเบ็ตส์ ผู้ขับเครื่องบิน “เอโนลา เกย์” นำ “Little Boy” ไปถล่มฮิโรชิมา



9 สิงหาคม 2488 สหรัฐฯ ทิ้งระเบิดปรมาณูลูกที่ 2 ที่เมือง นางาซากิ ในสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งเป็นเมืองท่าอุตสาหกรรมี่สำคัญของญี่ปุ่น ส่งผลให้ญี่ปุ่นยอมแพ้สงครามในเวลาต่อมา (นางาซากิ ถูกถล่มราบเป็นหน้ากลองด้ววอานุภาพระเบิดปรมาณูชนิด พลูโตเนียม มีผู้เสียชีวิต 73,884 คน)

การทิ้งระเบิดที่ฮิโรชิม่า ประเทศญี่ปุ่น เป็นระเบิดลูกสำคัญที่ยุติสงครามโลกครั้งที่ 2 และเป็นเหตุการณ์ที่โลกต้องจดจำจากเหตุการณ์นี้มีผู้เสียชีวิตถึงกว่า 250,000 คน


เมฆรูปดอกเห็ดที่ลอยตัวสูงถึง 18 กิโลเมตรเหนือจุดระเบิดของ "ชายอ้วน" หรือ "แฟทแมน"


รางวัลโนเบล (สวีเดน: Nobelpriset; อังกฤษ: Nobel Prize) เป็นรางวัลประจำปี ที่มอบให้กับบุคคลที่มีผลงานวิจัยหรือสิ่งประดิษฐ์ที่โดดเด่น หรือสร้างคุณประโยชน์ให้กับมนุษยชาติ (มอบให้กับองค์กรได้ ถ้าเป็นกรณีของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ)

การมอบรางวัลโนเบลจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ในวันที่ 10 ธันวาคม โดยผู้พระราชทานคือ สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งราชอาณาจักรสวีเดน ถึงแม้ว่าบางปีรางวัลบางสาขาอาจไม่มีการตัดสิน แต่มีข้อกำหนดว่าระยะการเว้นการมอบรางวัลต้องไม่เกิน 5 ปี สำหรับ
ผู้ได้รับรางวัลจะได้รับเหรียญรางวัลโนเบล ใบประกาศเกียรติคุณ เงินรางวัลประมาณ 10 ล้านโคร์นหรือประมาณ 44 ล้านบาท




รางวัลโนเบลเป็นความตั้งใจก่อนเสียชีวิตของ อัลเฟรด โนเบล (Alfred Nobel) นักเคมีชาวสวีเดน ผู้คิดค้นระเบิดไดนาไมต์ ซึ่งรู้สึกเสียใจจากการที่ระเบิดของเขาถูกนำไปใช้ในการคร่าชีวิตมนุษย์ เขาจึงมอบ 94% ของทรัพย์สินมาให้เป็นเงินทุนในรางวัลโนเบล 5 สาขา (เคมี, การแพทย์, วรรณกรรม, สันติภาพ และฟิสิกส์)

สำหรับสาขาเศรษฐศาสตร์นั้น ได้เพิ่มเข้ามาเมื่อ พ.ศ. 2512 (ค.ศ. 1969) โดยธนาคารแห่งชาติสวีเดน โดยชื่ออย่างเป็นทางการคือ Bank of Sweden Prize in Economic Sciences in Memory of Alfred Nobel (รางวัลธนาคารกลางสวีเดน สาขาเศรษฐศาสตร์ ในความทรงจำถึง อัลเฟรด โนเบล) หรือเรียกสั้น ๆ ว่า Nobel Memorial Prize in Economics โดยผู้ตัดสินรางวัลคือ Royal Swedish Academy of Sciences. เนื่องจากรางวัลนี้ไม่ได้อยู่ในความตั้งใจก่อนเสียชีวิตของ อัลเฟรด โนเบล ดังนั้นจึงไม่ได้รับเงินรางวัลจากมูลนิธิโนเบล แต่ได้รับเงินจากธนาคารกลางสวีเดน อย่างไรก็ตาม รางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์มีศักดิ์และสิทธิ์เท่ากับรางวัลในสาขาอื่น ๆ การมอบรางวัลนี้ ก็จะมอบในวันเดียวกันกับรางวัลโนเบลสาขาอื่น โดยมีกษัตริย์สวีเดนเป็นผู้มอบตั้งแต่ปี 1902 เป็นต้นมา ได้รับเหรียญตรา และจำนวนเงินเท่าเทียมกัน ซึ่งในตอนแรกนั้นกษัตริย์ออสการ์ที่ 2 แห่งสวีเดนทรงไม่เห็นด้วยที่จะให้มีการมอบรางวัลที่สำคัญสูงสุดระดับประเทศนี้ให้กับคนต่างชาติ แต่สุดท้ายพระองค์ก็ทรงเปลี่ยนพระทัยเนื่องจากทรงเล็งเห็นว่ารางวัลที่สำคัญนี้จะสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ

วันพฤหัสบดีที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2554

สวัสดีคะน้องๆ ที่ใส่ใจสุขภาพ เวลาเกือบ 3 เดือนต่อจากนี้ พี่จะขอรับอาสาดูแลร่างกายน้องๆ เอง และเรื่องราววันนี้จะแนะนำท่ากายบริหารสำหรับลดพุงสลายไขมันกัน คงถูกใจหลายคนเลยล่ะสิ




ท่าที่ 1
ยืนกางขาทั้ง 2 ข้าง แขม่วท้องและพยายามเกร็งค้างไว้ ยกแขนขึ้น แล้วเอาแขนลง ทำอย่างนี้ต่อเนื่องไปเซตละ 20 ครั้ง ทำซ้ำกันอย่างน้อย 30 ครั้ง หรือมากกว่า

ท่าที่ 2
นั่งคุกเข่ากับพื้นทับขาทั้ง 2 ข้างไว้ ชูมือขึ้นจนสุดทั้ง 2 ข้าง ก่อนที่จะเอนไปด้านหลังให้มากที่สุด แล้วค้างไว้ 8-10 วินาที จะทำให้หน้าท้องได้ออกกำลังกาย

ท่าที่ 3
ยกมือประสานกันไว้ด้านบน บิดตัวไปด้านใดด้านหนึ่งค้างไว้ 20 วินาที แล้วบิดสลับมาอีกด้าน

ท่าที่ 4
มาเล่นท่ายากกันบ้าง นอนหงายกับพื้น เหยียดตัวตรงงอเข่า 2 ข้าง เข้าหาหน้าอก ก่อนจะยกขาขึ้นเหยียดตรงไปด้านบน ค้างไว้ 3 วินาที ก่อนจะกลับมาที่ท่างอเข่า แล้วเหยียยดขาตรงเหมือนท่าเริ่มแรก ทำอย่างนี้ต่อไปอย่างน้อย 15 ครั้ง





บริหารเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง ไขมันหน้าท้องจะลดลงจนสังเกตเห็นเลยเชียวล่ะ แต่วิธีที่ดีที่สุดในการไม่มีพุงเลย คือการเลือกรับประทานอาหาร ลดหรือเลิกรับประทานอาหารที่พวกไขมัน แป้ง น้ำตาล ในปริมาณมาก รับประทานผัก ผลไม้ เพื่อช่วยในการย่อย หมั่นออกกำลังกายสม่ำเสมอ นอกจากจะไม่อุ้นยังมีร่างกายที่แข็งแรงสุขภาพดีอีกด้วยครับ

วิธีชมคนที่คิดว่าตัเองสวย(อย่าง ฮา)

1. เธอนี่สวยยังไง สวยยังงั้น...ไม่สวยยังไง ไม่สวยยังงั้น
2. สวยมาแต่ไกลเลย แต่ทำไมใกล้ๆแล้วไม่สวยวะ
3. สวยเหมือนลูกครึ่ง...อเมริกัน-บรามัน
4. สวยปลาสลิด (เวลากินปลาสลิด เขาตัดหัวปลาทิ้ง สังเกตมั้ย)
5. ชั้นอยากจะบอกว่าเธอสวยนะ แต่ชั้นทำใจไม่ได้จริงๆ

6. เธอสวยที่สุด..ในวัด (มีแต่พระกับเณร)
7. สวยปานศิลปินวาดไว้ ภาพแอ็บสแทร็ค
8. สวยไม่ฟังคำติฉินนินทา
9. เค้าว่ากันว่าตักบาตรด้วยดอกไม้ ชาติหน้าจะเกิดสวย
เธอน่าจะตักบาตรด้วย ปากคลองตลาดเลยนะ
10. ถ้ามีคนสวยอย่างเธอซักร้อยคน โลกคงวุ่นวายน่าดู
ผู้คนคงล้มตายกันเกลื่อน ต้นไม้ต้นไร่ตายยกโคตร เกิดกลียุดเป็นแน่


11. สงกรานต์นี้มีใครเค้ามาสาดน้ำเธอบ้างมั้ย หรือมีแต่มาดำหัว
12. ถ้าเธอจมูกโด่งอีกนิด ปากบางกว่านี้อีกหน่อย สิวไม่เยอะอย่างนี้ เธอต้องสวยมากแน่ๆ น่าเสียดายที่มันเป็นไปไม่ได้
13. เธอนี่สวยแบบคิดมาแล้ว (เหลือจากคัดอีกที)
14. เป็นคนไม่สวยกับเป็นคนบ้าคิดว่าตัวเองหน้าตาดี
ชั้น เลือกอย่างแรกนะ เธอก็น่าจะทำอย่างชั้นบ้าง
15. เธอสวยจนคนอื่นเค้าไม่อยากสวยไปด้วยเลย

16. สวยไม่บอกไม่รู้
17. ความสวยไม่คงที่ ความดีสิคงทน ฉันถึงอยากให้เธอทำความดีมากๆ จะได้มีดีกับเค้าบ้าง
18. คนจะงาม งามน้ำใจ ใช่ไบหน้า เพราะฉะนั้น ชั้นก็ว่าเธองามได้
19. สวยไม่แคร์เพื่อนร่วมโลก
20. ที่คนเค้ามองเธอเวลาเธอเดินไปไหนมาไหนน่ะ
ไม่ใช่เพราะสวยหรอกนะ เพราะแปลกย่ะ อีอุบาทว์ อุ๊ย!!! ชั้นคงไม่ได้พูดแรงไปใช่มั้ย

วันพุธที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

7 สถานที่ขอแต่งงานสุดแสนโรแมนติกต้อนรับ "วาเลนไทน์"

วันแห่งความรัก หลายต่อหลายคนถือเอาเป็นฤกษ์งามยามดีที่จะทวงถามคำตอบจากคนรักว่าจะยอมตกลงปลงใจใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน มี 7 สถานที่โรแมนติกมาแนะนำ

ชิงช้าสวรรค์ ลอนดอน อายน์ กรุงลอนดอน ประเทศ อังกฤษ
ชิงช้าสวรรค์ความสูงถึง 135 เมตร แห่งนี้ เหมาะอย่างยิ่งกับการควงคู่กันขึ้นไปสัมผัสสายลมยามค่ำคืนในบรรยากาศสุดแสนโรแมนติกพร้อมชมวิวทิวทัศน์ทั่วกรุงลอนดอนแบบกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา จากจุดที่สูงที่สุดในอังกฤษนี้ ในช่วงวันแห่งความรัก บรรดาคู่รักมักจะจับจองความเป็นส่วนตัวบนที่สูงในแคปซูลแชมเปญที่จะให้ความเป็นส่วนตัวและพาคุณล่องลอยไปบนอากาศพร้อมดื่มแชมเปญ Laurent-Perrier รสเลิศร่วมกันเพื่อกับฉลองวันที่แสนจะโรแมนติกนี้ และเมืองผู้ดีแห่งนี้ยังมีประเพณีประจำปีที่ออกจะแปลกกว่าทุกๆ ที่ คือในวันที่ 29 กุมภาพันธ์ ของทุกปี หญิงสาวจะสามารถเป็นฝ่ายเอ่ยปากขอชายหนุ่มแต่งงานได้อีกด้วย สาวใดที่หนุ่มๆ ปล่อยให้รอแต่ไม่ขอสักที คงต้องชวนคู่รักไปเยือนกรุงลอนดอนสักทีแล้ว



หอไอเฟล กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส
หากไม่มีหอไอเฟล ติดอันดับสถานที่แนะนำให้หนุ่มๆ ใช้เป็นที่คุกเข่าขอความรักกับสาวๆ คงเป็นไปไม่ได้ ด้วยการได้รับการขนานนามว่าเป็นนครแห่งความรักทำให้หอไอเฟล แห่งกรุงปารีส กลายเป็นไอคอนสำคัญของมหานครแห่งนี้และติดอันดับไอคอนของโลกเลยก็ว่าได้ ในวันวาเลนไทน์ของทุกปีนั้น หอไอเฟลจะคราคร่ำไปด้วยคู่รักทุกเพศทุกวัยที่จับจองพื้นที่ที่จะใช้เวลาสุดแสนโรแมนติกด้วยกัน เชื่อว่าบรรยากาศยามค่ำคืนบนหอสูงแห่งนี้จะเป็นแรงผลักดันให้บรรดาสุภาพบุรุษทั้งหลายกล้าเผยความในใจขอคนรักแต่งงานและสาวเจ้าก็น่าจะยินดีรับอีกด้วย ขอบอกว่า พระเอกฮอลลี่วู้ด ชื่อดัง อย่างทอม ครูซ ก็ใช้หอไอเฟลแห่งนี้คุกเข่าขอหมั้นคนรักมาแล้ว ใครจะเลียนแบบ ก็ไม่ว่ากัน
ซิดนีย์ ฮาร์เบอร์ บริดจ์ ประเทศ ออสเตรเลีย
สะพานซิดนีย์ ฮาร์เบอร์ บริดจ์ เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่ขอแนะนำ ด้วยสถาปัตยกรรมแบบโครงสร้างเหล็กถักรูปโค้งที่งดงาม และยังนับเป็นสะพานแขวนที่ใหญ่ที่สุดในโลก สร้างขึ้นเพื่อเป็นสะพานแห่งความหวังในยุคที่เศรษฐกิจตกต่ำ แต่ในช่วงวาเลนไทน์ ซิดนีย์ ฮาร์เบอร์ บริดจ์ ก็จะกลายเป็นสะพานแห่งความหวังของคนที่ต้องการลั่นประตูวิวาห์ในเร็ววัน ด้วยบรรยากาศที่โรแมนติกไม่แพ้ที่ใด สายลมพัดเย็นสดชื่นด้านบนกับฉากท้องฟ้าที่งดงามยามพระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้าและยามค่ำคื่นที่พื้นน้ำด้านล่างที่สะท้อนแสงสีของเมืองซิดนีย์ ประกอบกับวิวของโอเปร่า เฮ้าส์ สถาปัตยกรรมที่เลื่องชื่อระดับโลก ส่วนผสมที่ลงตัวทั้งหลายเหล่านี้ คงจะช่วยให้ความหวังความฝันในเรื่องความรักกลายเป็นจริงได้ไม่ยากเลยทีเดียว


อ่าวมาหยา เกาะพี พี จังหวัดกระบี่ ประเทศไทย
อ่าวมาหยา อันเลื่องชื่อแห่งท้องทะเลกระบี่ที่โด่งดังเป็นที่ประจักษ์กับสายตาชาวโลกมาแล้วเมื่อใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดเรื่อง เดอะ บีช ที่มีพระเอกวัยกระเตาะในยุคนั้นอย่าง ลีโอนาโอ ลิคาปริโอ รับบทนักแสดงนำ ธรรมชาติที่งดงามลงตัว ทั้งชายหาดขาว น้ำทะเลใส วิวสวย และเป็นอ่าวที่ซุกซ่อนตัวอยู่ในแนวกำบังของกำแพงผาทำให้อ่าวมาหยาเหมาะอย่างยิ่งกับการใช้เวลาที่แสนสงบ ดื่มด่ำกับธรรมชาติ และเผยความในใจกับคู่รักแบบมีสายลม แสงแดด และภูผา เป็นพยานก็โรแมนติกไปอีกแบบ


ตึกเอมไพร์ สเตท นิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา
ตึกที่ได้ชื่อว่าสูงที่สุดในโลกมายาวนานถึง 40 ปีแห่งนี้ เป็นสถานที่รวมบรรดาคู่รักหลากหลายชาติที่พากันใช้ชั้นสูงสุดของตึกที่สุดแสนจะโรแมนติกดื่มด่ำบรรยากาศด้วยกันในค่ำคืนวาเลนไทน์ ที่น่าสนใจสำหรับที่นี่ คือ การจัดงานแต่งงานหมู่ให้กับคู่บ่าวสาวซึ่งเป็นประเพณีของทุกปีในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ที่จะมีคู่รักจากนานาชาติกว่า 200 คู่ ที่ใช้ วันวาเลนไทน์และตึกเอมไพร์เป็นสถานที่วิวาห์ เพราะฉะนั้น ใครที่อยากสมหวังในความรัก ลองใช้ตึกเอมไพร์ ขอคนรักแต่งงานดู ไม่แน่นะว่า สาวเจ้าจะตกปากรับคำทันที และปีต่อไป คุณจะได้เป็นอีกคู่หนึ่งที่มาเข้าพิธีวิวาห์ที่ตึกสูงสุดของโลกในมหานครนิวยอร์กแห่งนี้ก็เป็นได้


จตุรัส ซาน มาร์โค กรุงเวนิช ประเทศอิตาลี
ใครที่เคยไปเยือนกรุงเวนิช ประเทศอิตาลี ต้องยอมรับว่าเป็นเมืองโรแมนติกที่สุดในโลก ด้วยความงดงามของสถาปัตยกรรมเก่าแก่และเสน่ห์ของการเป็นเมืองที่เหมือนลอยอยู่บนผิวน้ำ สำหรับวาเลนไทน์ปีนี้ เวนิช จึงเป็นอีกแห่งหนึ่งที่ต้องแนะนำ เพราะเลือกความโรแมนติกเพื่อขอคู่รักแต่งงานกันได้หลายแบบ ทั้งล่องเรือกอนโดลาที่สวยงามโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของเวนิช ที่จะพาคู่รักล่องไปตามตรอกซอยต่างๆ ที่สองข้างทางจะเป็นสิ่งปลูกสร้างที่งดงามสไตล์อิตาลี หรือจะใช้สถานที่ศักดิ์สิทธิ์และงดงามเป็นเครื่องช่วยให้สาวเจ้ารับคำขอก็ขอแนะนำที่จตุรัสซาน มาร์โค ที่ซึ่งวิหารแบบไบเซนไทน์ ที่งดงามและใหญ่ที่สุดในยุโรปตะวันตกตั้งตระหง่านอยู่

หาดไวกิกิ , เกาะโออาฮู, ฮาวาย
หาดไวกิกิ เหมาะกับคู่รักที่ออกจะชอบกลิ่นอายของความเจริญผสมกับบรรยากาศแบบธรรมชาติของท้องทะเลสีครามแห่งมหาสมุทรแปซิฟิก น้ำทะเลที่นี่ได้ชื่อว่ามีสีสันสวยงามไม่เหมือนที่ใด และความโรแมนติกของหาดไวกิกิอยู่ที่ทัศนียภาพในยามพระอาทิตย์ตกที่แสงสะท้อนของน้ำทะเลจะยิ่งงดงามขึ้น หรือจะใช้ช่วงเวลาโรแมนติกด้วยกันในยามค่ำคืน ทั้งดินเนอร์ด้วยกันบนชายหาดที่งดงาม หรือพากันเดินเล่นไปยังจุดที่เรียกว่า Diamond Head ที่เป็นมุมที่งดงามของหาดไวกิกิ ซึ่งจะได้เห็นหาดโค้งเสี้ยวพระจันทร์และตึกที่มีแสงไฟระยิบระยับทอดตัวเป็นแนวโค้งขนานกับหาดในเวลากลางคืน นับเป็นวิวที่สวยมากของหาดแห่งนี้

วันพฤหัสบดีที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ลูกหม่อน




สรรพคุณของต้นหม่อนมีรายงานไว้อย่างมากมาย โดยแยกตามส่วนต่าง ๆ ของต้น ดังนี้

- ยอดหม่อน หากรู้สึกอ่อนล้า ใช้สายตามากในการทำงานโดยเฉพาะผู้ที่ทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์ ขับรถยนต์ในเวลากลางคืน และเพ่งมองถนนเป็นเวลานาน ๆ การนำส่วนยอดอ่อนของหม่อนมาต้มเพื่อดื่มและล้างตา ก็จะสามารถช่วยผ่อนคลายและช่วยบำรุงสายตาได้เป็นอย่างดี
- ใบหม่อน มีสารออกฤทธิ์กลุ่มฟลาโวนอยด์ ไฟโตสเตียรอล ไตรเทอปีน อัลคาลอยด์เซราไมด์และน้ำมันหอมระเหยนอกจากนี้ยังมีสารอาหารต่าง ๆ ในปริมาณสูง เช่น คาร์โบไฮเดรต เพคติน โปรตีน เส้นใยอาหาร รวมทั้งวิตามินบี ซี และแคโรทีนด้วย ผลการศึกษาประโยชน์จากใบหม่อนโดยนักวิทยาศาสตร์ชาวญี่ปุ่นรายงานว่า ใบหม่อนนั้นสามารถช่วยลดปริมาณคอเลสเตอรอลในกระต่ายได้ ลดปริมาณน้ำตาลในเลือด ลดความดันโลหิตและลดอัตราการตายของหนูที่เป็นโรคมะเร็งในตับลงอย่างได้ผล ในหมู่ชาวญี่ปุ่นมีการดื่มน้ำชาจากผงใบหม่อนและรากหม่อนสืบต่อกันจนเป็นประเพณีด้วยความเชื่อที่ว่าจะช่วยในการบำรุงและรักษาสุขภาพได้ดี Mr.Tsushida และคณะ ค้นพบสาร gamma-aminobutyric acid ในใบหม่อนและได้พัฒนามาเป็นชา “Gabaron Tea” เพื่อใช้บำบัดรักษาโรคความดันโลหิตสูง

ชาใบหม่อนมีคุณสมบัติในการรักษาโรคต่าง ๆ ได้โดยมีการศึกษาในหนูทดลอง สรุปได้ดังนี้

ลดระดับคอเลสเตอรอล สาร Phytosterol ในใบหม่อนเป็นสารที่มีประสิทธิภาพในการลดระดับคลอเลสเตอรอลในเลือด โดยยับยั้งการดูดซึมคอเลสเตอรอลจากลำไส้

ลดน้ำตาลในเลือด สารที่เรียกว่าดีอ๊อกซิโนจิริมายซิน ซึ่งมีอยู่ 0.1% ในใบหม่อน โดยสารนี้จะพบเฉพาะในใบหม่อนเท่านั้น ซึ่งมีผลในการยับยั้งการทำงาน ของเอนไซม์ที่ย่อยสลายน้ำตาล และชลอการดูดซึมน้ำตาลจากลำไส้ ซึ่งมีผลในการลดระดับน้ำตาลในเลือด

ลดความดันโลหิต สาร Gamma-amino butyric acid ซึ่งมีคุณสมบัติในการลดความดันโลหิต

บำรุงร่างกาย นอกจากมีสารที่เป็นประโยชน์ในทางการแพทย์แล้ว ยังพบว่าในการวิเคราะห์ชาเขียวจาก ใบหม่อนพบแร่ธาตุต่าง ๆ และโปรตีนที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย
- กิ่งหม่อน มีสารออกฤทธิ์สำคัญคือ มอริน (morin) มัลเบอริน (mulberrin) และมัลเบอโรโครมีน (mulberrochromene)
เรานำกิ่งหม่อนมาใช้ประโยชน์ได้โดยตัดกิ่งหม่อนและโคนต้นหม่อนเก่า ๆ เป็นท่อน แล้วนำไปผึ่งไว้ให้แห้ง ต้มน้ำสะอาด ใช้ดื่มเพื่อช่วยให้ระบบไหลเวียนโลหิตทำงานได้ดีขึ้น รักษาอาการปัสสาวะสีเหลือง กลิ่นฉุนอันเกิดจากความร้อนภายในร่างกาย ช่วยทำให้ระบบลำไส้ทำงานได้ดียิ่งขึ้น ขจัดความร้อนในปอดและกระเพาะอาหาร ขจัดการหมักหมมในกระเพาะและเสลดในปอด นอกจากนั้นยังใช้รักษาอาการปวดมือ เท้าเป็นตะคริวและเหน็บชาอีกด้วย
- ผลหม่อน หรือ MULBERRY การใช้ประโยชน์จากผลหม่อนนั้นหลากหลายมากมายไม่น้อยไปกว่าส่วนอื่น ๆ ของต้นหม่อนเองเลย ผลหม่อนสุกให้รสชาติหวานอมเปรี้ยว มีสรรพคุณใช้รักษาโรคไขข้อ บำรุงหัวใจ บำรุงผมให้ ดกดำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศแถบเอเชีย ชาวจีนเรียกผลหม่อนว่า sangshen ในหนังสือ modern Chinese Materia Medica ให้สมญานามผลหม่อนว่าเป็น Blood tonic นั่นย่อมแสดงถึงความสำคัญในด้านบำรุงเลือดตามคติความเชื่อของชาวจีนได้เป็นอย่างดี แพทย์ชาวจีนในสมัยราชวงศ์หมิง ชื่อ เลี่ยงฮียัง ได้กล่าวถึงคุณประโยชน์ของการรับประทานผลหม่อนสุกไว้ว่า “ทำให้ตับไม่มีไฟ หัวใจคลายความร้อนรุ่ม เส้นประสาทตาดี สายตาก็แจ่มใส ร่างกายก็สุขสบาย

-รากหม่อน มีสารสำคัญกลุ่มอัลคาลอยด์ คูมารินส์ เทอร์ปีน สติลปีน ฟลาโวนอยด์ เบนซินอยด์
สำหรับการเก็บเกี่ยวรากหม่อนมาใช้ประโยชน์นั้น ในประเทศจีนจะเก็บในช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วง ระหว่างที่ใบหม่อนกำลังร่วงและในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิก่อนที่ใบจะงอก โดยเอาส่วนของไม้ก๊อก (cork) ที่เป็นสีน้ำตาลเหลืองออก ตัดตามยาวของลำต้นแล้วลอกเปลือกออกตากแดด ซึ่งรากที่ได้จะมีคุณสมบัติทางยาสูงสุด สามารถใช้ลดปริมาณน้ำตาลในเส้นเลือด ลดความรุนแรงและรักษาโรคเบาหวานได้ โดยสารอัลคาลอยด์ที่ชื่อ deoxnojirimycin (DNJ) จากส่วนเปลือกรากหม่อน (Morus nigra) ได้นำมาสกัดเป็นยาชื่อ Homonojirimycin เพื่อใช้เป็นยารักษาโรคเบาหวาน นอกจากนั้น DNJ ซึ่งมีคุณสมบัติทางเคมีคล้ายกับน้ำตาลกลูโคส จะไปเพิ่มโมเลกุลของน้ำตาลที่ผิวด้านนอกของเชื้อ HIV เป็นอุปสรรคกีดขวางในการเข้าไปทำลายเซลล์ของเชื้อ HIV จากรายงานการศึกษาของ Mr.Raymond Dwek และคณะ แห่งมหาวิทยาลัยอ็อกฟอร์ดที่ได้รายงานว่า butyl DNJ มีผลต่อการยับยั้งโรค AIDS ได้มาก ขณะนี้ทดลองในสัตว์ได้ผลดีระดับหนึ่ง ส่วนการทดลองในคนไข้เอดส์ คาดว่าจะทำได้ในเร็ว ๆ นี้ และอาจเป็นข่าวดีสำหรับผู้ป่วยโรคเอดส์พร้อมกับคำว่า “หม่อน พืชมหัศจรรย์”
นอกจากนี้สารสกัดจากรากหม่อนก็ถูกนำมาใช้เป็น Whitening agent ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง อันเนื่องมาจากสารสกัดดังกล่าวมีฤทธิ์ยับยั้งการสร้างเมลานิน (melanin) โดยสาร 2-oxyresveratrol จากกิ่งหม่อน และสาร mulberroside F จากใบและสารสกัดจากเปลือกราก มีฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ tyrosinase ซึ่งเกี่ยวข้องในขบวนการสร้างเม็ดสีที่ผิวหนังนั่นเอง

วันพุธที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

Olive oil's health benefits













Olive oil's health benefits

The greatest exponent of monounsaturated fat is olive oil, and it is a prime component of the Mediterranean Diet. Olive oil is a natural juice which preserves the taste, aroma, vitamins and properties of the olive fruit. Olive oil is the only vegetable oil that can be consumed as it is - freshly pressed from the fruit.


The beneficial health effects of olive oil are due to both its high content of monounsaturated fatty acids and its high content of antioxidative substances. Studies have shown that olive oil offers protection against heart disease by controlling LDL ("bad") cholesterol levels while raising HDL (the "good" cholesterol) levels. (1-3) No other naturally produced oil has as large an amount of monounsaturated as olive oil -mainly oleic acid.

Olive oil is very well tolerated by the stomach. In fact, olive oil's protective function has a beneficial effect on ulcers and gastritis. Olive oil activates the secretion of bile and pancreatic hormones much more naturally than prescribed drugs. Consequently, it lowers the incidence of gallstone formation.


Olive oil and heart disease
Studies have shown that people who consumed 25 milliliters (mL) - about 2 tablespoons - of virgin olive oil daily for 1 week showed less oxidation of LDL cholesterol and higher levels of antioxidant compounds, particularly phenols, in the blood.(4)
But while all types of olive oil are sources of monounsaturated fat, EXTRA VIRGIN olive oil, from the first pressing of the olives, contains higher levels of antioxidants, particularly vitamin E and phenols, because it is less processed.
Olive oil is clearly one of the good oils, one of the healing fats. Most people do quite well with it since it does not upset the critical omega 6 to omega 3 ratio and most of the fatty acids in olive oil are actually an omega-9 oil which is monounsaturated.


Olive oil and colon cancer
Spanish researchers suggest that including olive oil in your diet may also offer benefits in terms of colon cancer prevention (5). Their study results showed that rats fed diet supplemented with olive oil had a lower risk of colon cancer than those fed safflower oil-supplemented diets. In fact, the rats that received olive oil had colon cancer rates almost as low as those fed fish oil, which several studies have already linked to a reduction in colon cancer risk.


Types of oik
Generally, olive oil is extracted by pressing or crushing olives. Olive oil comes in different varieties, depending on the amount of processing involved. Varieties include:

Extra virgin - considered the best, least processed, comprising the oil from the first pressing of the olives.
Virgin - from the second pressing.
Pure - undergoes some processing, such as filtering and refining.
Extra light - undergoes considerable processing and only retains a very mild olive flavour.
vocabury
fatty acids = กรดไขมัน
heart disease = โรคหัวใจ
prescribed drugs = ยาเสพติดที่กำหนด
gallstone formation = โรคนิ่ว
healing fats = ไขมันบำบัด
colon cancer = มะเร็งลำไส้ใหญ่

วันพฤหัสบดีที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2554

เชือกผูกรองเท้าหลายสไตล์

เชือกผูกรองเท้าหลายสไตล์

ชอบใส่รองเท้าผ้าใบนะ เพราะทะมัดทะแมงดี เดินสะดวก สบายเท้า เคยพยายามผูกอยู่หลายลายแต่ไม่สำเร็จ เลยได้แต่ไขว้ไปไขว้มาอย่างเดียว แต่ตอนนี้มีหลายแบบให้เลือกแล้ว มาดูกัน แล้วเอาไปลองทำกันนะคะ








































































นี้คือผลงานการทำงานเพลงฟิสิกส์แล้วลง Youtude.com
เนื้อเพลงคิดเองคะโดยดัดแปลงเนื้อหาจาก เพลง ให้รักเดินทางมาเจอกัน

วันพุธที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2554



ใครเลยจะรู้ล่ะค่ะว่า เจ้าอาการน่ายับยู่ยี่แบบนั้น มีสาเหตุมาจากการนอนในท่าทางที่ไม่ถูกต้อง!! ... น้องๆ ลองสังเกตดูนะคะว่า เวลาที่เราตื่นมาแล้ว ใบหน้าของเรามีรอยย่น หรือว่าร่องแก้มด้านหนึ่งมีรอยลึกมากกว่าอีกด้านรึเปล่า ถ้าน้องๆ มีริ้วรอยแบบนี้บนใบหน้าล่ะก็ อย่ามองเป็นเรื่องปกติหรือคิดว่าพอล้างหน้าล้างตาแล้วก็หายไปนะคะ เพราะนี่คือต้นเหตุหนึ่งของการที่ใบหน้าเรามีรอยเหี่ยวย่นก่อนวัยได้ค่ะ

ริ้วรอยที่เกิดขึ้นนี้เรียกว่า Sleep Lines เป็นริ้วรอยที่เกิดจากการนอนผิดท่าเป็นเวลานานๆ โดยเฉพาะการนอนตะแคงข้างหรือนอนคว่ำหน้า แม้ว่าริ้วรอยนี้จะไม่น่ากลัวนัก แต่หากเรายังไม่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการนอน ริ้วรอยชนิดนี้จะไม่สามารถลบเลือนได้อีกหากเราอายุเพิ่มมากขึ้น แน่นอนค่ะว่าเจ้าริ้วรอยนี้อาจเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เราดูแก่ก่อนวัย
สำหรับการหลีกเลี่ยงริ้วรอยเหล่านี้ น้องๆ ก็สามารถทำได้ง่ายๆ โดยการฝีกนอนหงายให้เคยชินค่ะ เพราะการนอนหลับในท่านอนหงายจะเป็นท่าที่ทำให้เรานอนสบายและเป็นท่าที่ดีที่สุดสำหรับผิวหน้าของเราด้วยค่ะ