วันจันทร์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2553

ของใช้สุดฮิต

ไอค่อนเก็บข้อมูลในคอมพิวเตอร์เลียนแบบแฟ้ม บรรจุเอกสาร ตอนนี้กระเป๋ากำลังจะเลียนแบบไอคอนโฟลเดอร์อีกที ฮา

การล้อเลียนเอาซะเหมือนทั้งสีและดีไซน์ แม้แต่ฟอนต์ของตัวอักษรคำว่า MY DOCUMENT ก็จัดให้แบบเหลี่ยมดูมีความอิเล็กทรอนิกส์จัดๆ ใครที่วันๆ นั่งอยู่แต่หน้าจอคอมพิวเตอร์มาเห็นกระเป๋าใบนี้อาจจะอาเจียนหรือคิดไปได้ ว่าตัวเองเบลอมีอาการเมาเม้าส์และแป้นพิมพ์อยู่หรือเปล่า?




ขนาดใหญ่พอที่จะบรรจุคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คหอบ หิ้วประจำตัวได้ แถมฟรีป้ายทำจากยางรูปไอคอนหนึ่งอัน จะสุ่มไปให้ไปลุ้นเอาว่าจะได้ ลูกศร มือ นาฬิกาทราย

ใครหากระเป๋าใส่กล้องเท่ๆ เขาก็ทำมาสนองความต้องการเช่นกัน เปลี่ยนข้อความบนกระเป๋าเป็น MY PHOTO ก็ดูดี น่ารัก ไม่แพ้กัน เห็นแล้วอยากจะไปดับเบิ้ลคลิกเปิดดูข้างในจริงๆ เชียว







วันจันทร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2553

ไอเดียเก๋ แต่งรถให้สวยด้วยขนตา

ไอเดียเก๋ แต่งรถให้สวยด้วยขนตา
ไอเดียการแต่งรถไม่มีที่สิ้นสุดจริงๆ CarLashes ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า รถไม่จำเป็นต้องแต่งให้ดุดันหรือเท่ได้เท่านั้น เพราะรถของคุณโดยเฉพาะคุณผู้หญิงสามารถแต่งออกมาให้สวยหวานด้วยการติดขนตางอนๆพร้อมอายไลเนอร์คริสตัลเพิ่มความแวววาวของขอบตาหรือไฟหน้ารถ เรียกว่าถ้าแต่งออกมาแล้วขับไปที่ไหนรับประกันได้เลยว่าคนที่พบเห็นจะต้องหยุดมองและยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว ก็รถออกจะสวยน่ารักฉีกแนวไม่เหมือนใครและก็ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อนแบบนี้ ไม่ยิ้มก็บ้าแล้ว ที่สำคัญร้านแต่งรถในไทยสามารถนำเอาไอเดียนี้ไปทำชุดแต่งเจาะตลาดคุณผู้หญิงขับรถก็อาจจะรวยได้ง่ายๆ แถมไม่ต้องแต่งเยอะแยะมากมาย “โน่น นี่ นั่น” เหมือนรถแต่งทั่วไป ติดแค่ขนตาพร้อมอายไลเนอร์สวยๆให้รถแค่จุดเดียวก็ทำให้คนขับสวยขึ้นมาทันที 200% ส่วนคุณผู้ชายคนไหนอยากแต่งแบบนี้ก็ไม่ว่ากัน! ภาพสวยๆในการแต่ง BMW, Jeep, Volkswagen, Mercedes-Benz, Honda, Mini และอีกมากมายพร้อมคลิปผลงานการแต่งของ CarLashes ต่อจากนี้ครับ







วันพฤหัสบดีที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2553

เตือนภัย :ใช้โทรศัพท์มือถือนานๆระวังอาการ "เสียงดังในหู"



ดูเหมือนว่า ปัจจุบันนี้การสื่อสารผ่าน “การคุยโทรศัพท์มือถือ” เป็นเสมือนการสื่อสารหลักของผู้คน ไม่ว่าจะเรื่องเล็กเรื่องใหญ่การสื่อสารผ่านโทรศัพท์มือถือมักจะเป็นทางเลือกแรกๆ ที่ผู้คนเลือกใช้ แน่นอนว่า พฤติกรรมการใช้โทรศัพท์ของแต่ละคนก็จะมีความแตกต่างกันไปตามปัจจัยต่างๆ

บางคนโทรมาก บางคนโทรน้อย บางคนคุยโทรศัพท์มือถือที่ละนานๆ เป็นชั่วโมง …
สิ่งหนึ่งที่ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือต้องทราบไว้ก็คือ ถึงแม้การสื่อสารผ่านช่องทางนี้จะให้ความสะดวกและรวดเร็ว แต่ถ้าหากมีการใช้โทรศัพท์มือถือติดต่อกันบ่อยๆ เป็นเวลานาน “คุณ” อาจะเป็นผู้ที่มีความเสี่ยงต่ออาการ “เสียงดังในหู” มากกว่าคนปกติถึงสองเท่า!!!
มีรายงานการวิจัยของนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยแพทย์ศาสตร์เวียนนา ซึ่งถูกตีพิมพ์ลงในวารสารออกคิวเปชันนัล แอนด์ เอนไวเรนเมนทัล เมดิซิน โดยผลการวิจัยดังกล่าวได้ชี้ให้เห็นว่า การใช้โทรศัพท์มือถืออย่างน้อย 4 ปี เพิ่มความเสี่ยงอาการเสียงดังในหูถึงสองเท่า รบกวนการนอน การทำงาน และยังกระทบต่อคุณภาพชีวิตของผู้ใช้โทรศัพท์มือถือด้วย

โดยผู้ที่มีอาการดังกล่าว 1 ใน 7 ต้องทรมานกับอาการที่รักษาไม่หายนี้ในบางช่วงของชีวิต การค้นหาสาเหตุเพิ่มเติมจึงอาจเป็นประโยชน์ต่อผู้คนนับล้านทีใช้โทรศัพท์มือถือ
ในการวิจัยครั้งนี้นักวิจัยออสเตรเลียได้เปรียบเทียบการใช้โทรศัพท์มือถือของกลุ่มตัวอย่าง 100 คนที่เข้ารับการรักษาอาการเสียงดังในหู กับกลุ่มตัวอย่างอายุเท่ากันอีก 100 คนที่ไม่มีอาการดังกล่าว



กลุ่มตัวอย่างทั้งหมดถูกสอบถามเกี่ยวกับประเภทโทรศัพท์ที่ใช้ สถานที่ที่ใช้ เนื่องจากสัญญาณออกของโทรศัพท์มือถือมีแนวโน้มแรงขึ้นในพื้นที่ชนบท นอกจากนี้นักวิจัยยังสอบถามเกี่ยวกับความถี่และระยะเวลาในการใช้โทรศัพท์ หูข้างที่ชอบใช้ และการใช้อุปกรณ์มือถือ
ซึ่งผลการวิเคราะห์แสดงให้เห็นว่าคนที่ใช้โทรศัพท์มือถือก่อนมีอาการเสียงดังในหู มีแนวโน้มมีความผิดปกติดังกล่าวเพิ่มขึ้น 37% ส่วนคนที่ใช้โทรศัพท์มือถือเฉลี่ยวันละ 10 นาที มีแนวโน้มอาการเสียงดังในหูเพิ่มขึ้น 71%


นอกจากนี้ คนที่ใช้โทรศัพท์มือถือมานาน 4 ปีขึ้นไป มีแนวโน้มอาการเสียงดังในหูเพิ่มขึ้นสองเท่าเมื่อเทียบกับกลุ่มเปรียบเทียบ ซึ่งอาการดังกล่าวเกิดจากการแพร่กระจายรังสีของโทรศัพท์มือถืออาจทำลายการทำงานอันละเอียดอ่อนของหูชั้นใน และยังเป็นไปได้ว่าแรงกดที่เกิดจากการกดโทรศัพท์กับหูและไหล่ระหว่างเดิน กระตุ้นให้เกิดอาการเสียงดังในหู ซึ่งอาการดังกล่าวนั้นอาจส่งผลต่อการดำเนินชีวิตของผู้ใช้โทรศัพท์มือถือ เช่น รบกวนสมาธิในการทำงาน ทำให้เกิดอาการนอนไม่หลับได้
ถึงแม้ว่าจะยังไม่มีผลการวิจัยที่ชี้ชัดถึงวิธีการบำบัดอาการดังกล่าว แต่วิธีป้องกันที่ดีที่สุดเพื่อไม่ให้เกิดอาการดังกล่าว คือการรักษาระดับความถี่ในการใช้โทรศัพท์มือถือให้มีความพอดี ไม่ควรคุยทีละนานๆ และคุยด้วยระดับเสียงที่ปกติ …

วันจันทร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2553

ปัจจัยที่มีผลต่อการเลือกจะข่มขืน

บทคัดย่องานวิจัยปัจจัยแรกหรือมูลเหตุจูงใจให้ตัดสินใจข่มขืนโดยนางสาวอลิสาแสงขำ นักศึกษาปริญญาโทคณะนิติศาลตร์ (อาชญวิทยาซึ่งเป็นการเก็บข้อมูลจากนักโทษข้อหาข่มขืนจากคุกบางขวางและลาดยาวจำนวน 100 คน-
90% เลือกผู้หญิงผมยาวคือหางเปีย หางม้า ปล่อยตามธรรมชาติ เพราะกระชากจากข้างหลังได้ง่าย-
87.5% เลือกผู้หญิงที่สวมเสื้อผ้าถอดง่าย(แต่หากพบผู้หญิงถูกใจแต่สวมเสื้อผ้าที่ต้องใช้เวลาถอดนานเขาจะกลับมาดักรอเป็นครั้งที่สองพร้อมกรรไกร หรือคัตเตอร์)-
84% เลือกผู้หญิงที่เดินไปด้วยคุยโทรศัพท์ไปด้วย(มือถือสามารถนำไปขายต่อได้)หรืออ่านการ์ตูนหรือหนังสืออื่นขณะเดินเพราะไม่ได้ระวังตัว-
95.90% เลือกผู้หญิงที่เดินทางไปไหนมาไหนเวลากลางคืนเพราะผู้ชายส่วนใหญ่มีประสบการณ์ทางเพศครั้งแรกตอนกลางคืนโดยไม่คำนึงว่าต้องเป็นผู้หญิงสวยหรือหุ่นดีขอให้มีเพียงอย่างใดอย่างหนึ่งก็พอ(มีนักโทษบางขวางคนหนึ่งให้ข้อมูลว่าหากเวลานั้นเป็นเวลาที่เขาต้องการปลดปล่อยแล้วเขาไม่เลือกว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายวัว ควาย)-
99% เลือกผู้หญิงที่เดินทางคนเดียว(มีนักโทษบางขวางคนหนึ่งทำทีเป็นวินมอเตอร์ไซค์รับผู้หญิงคนที่ถูกใจจากกลุ่มเพื่อนของเธอที่เดินด้วยกันไปข่มขืน)-
80% สามารถข่มขืนได้ในการกระทำครั้งแรกโดยใช้อุปกรณ์ที่อยู่ในผู้หญิงนั่นเองเป็นอุปกรณ์ช่วยประกอบการกระทำผิดเช่น เข็มขัด ลูกกุญแจกระจกส่องหน้า(ต้องทุบให้แตกเป็นแหลมคมก่อน)-

70%เลิกล้มความตั้งใจหากผู้หญิงคนนั้นจ้องหน้าเขาแล้วเริ่มต้นสนทนาสั้นๆกับเขาก่อนขณะที่เขาเข้าประชิดตัว เช่นโทษค่ะ กี่โมงแล้วหากใครมีเพื่อนผู้หญิงโปรดแจ้งข้อมูลนี้เผื่อจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย