วันอังคารที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ว่ายน้ำดีอย่างไร ?




มาตระเตรียมอุปกรณ์การลงสระกัน

หมวกว่ายน้ำ การปล่อยผมที่ยาวสยายในสระจะรบกวนการว่ายน้ำของคุณได้ แต่ผมสั้นๆ ไม่ต้องก็ได้ครับ รอจังหวะขึ้นมาจากน้ำแล้วเสยผมเท่ๆ ดีกว่า

แว่นว่ายน้ำ หากหลับตาแหวกว่ายคุณจะมองไม่เห็นทางข้างหน้า เพิ่มโอกาสในการเกิดอุบัติเหตุและการลืมตาในน้ำที่มีคลอรีน อาจทำให้หลังว่ายน้ำเกิดการแสบตาได้ ถ้าว่ายกลางแจ้งอย่าลืมเลือกที่กันยูวีด้วยล่ะ

กางเกง กางเกงขาสั้นแบบแจมเมอร์ที่นักกีฬาว่ายน้ำชอบใส่หรือทรงสามเหลี่ยมที่คุ้นเคย แต่ถ้าขาดความมั่นใจเนื่องจากหวิวๆ ใช้เป็นกางเกงผ้าร่มสามส่วนที่ใช้เดินชายทะเลก็ได้ (สระมาตรฐานไม่ให้ใส่ลงนะครับ ^^")



เป็นการใช้เวลาว่างในการเล่นกีฬาที่คุ้มค่ามาก หนุ่มๆ จะแข็งแรงอย่างจริงจังทั้งภายนอก ภายในจนถึงปอดและไม่ต้องเสี่ยงกับอาการแบบเจ็บง่ายๆ เหมือนกีฬาชนิดอื่นๆ

เกร็ดความรู้เล็กน้อยที่จะเสริมการว่ายน้ำของหนุ่มๆ ให้สนุกมีประสิทธิภาพ ไม่ใช้แรงแบบไร้ประโยชน์




ว่ายอย่างไรไปให้เร็ว
การแหวกว่ายด้วยความรุนแรง เช่น การจ้วงสุดกำลัง ตีเท้าน้ำกระจายหมายให้พุ่งไปเร็วๆ เท่ากับเสียแรงเปล่าการว่ายนุ่มนวลเป็นมวลเดียวกับน้ำแต่เน้นการแหลกส่งจะเร็วกว่า แต่ถ้าอยากไปไวจริงๆ ให้เน้นที่การบิดตัวดีกว่า เพราะช่วยเสริมพลังในการส่งให้ตัวพุ่งไปข้างหน้าชัวร์
หุ่นไม่ตันเป็นบางส่วน
ใครที่เตะฟุตบอลหรือปั่นจักรยานจนน่องโป่ง ตีแบดมินตันจนแขนล่ำ ไม่ต้องห่วงเพราะกีฬาว่ายน้ำเป้นการเฉลี่ยออกกำลังกายไปทั้งร่างกาย และว่ายบ่อยก็ไม่ทำให้ ในท่าทางการว่ายต่างๆ ที่มีอยู่แล้ว คือการบริหารช่วงตัวตั้งแต่หัวจรดเท้าได้อย่างไม่ต้องกังวลว่าจะใหญ่โตมากมายบางส่วนครับ



ว่ายน้ำก็เผาผลาญ
หนุ่มหลายคนคิดว่า การวิ่งจนเหงื่อโทรมตัวหรือเล่นบาสเก็ตบอลจนเหงื่อไหลต่างน้ำใช้แรงมากกว่าการว่ายน้ำที่เหงื่อไม่ไหลออกมาแม้แต่เม็ดเดียว แต่เชื่อเถอะการว่ายน้ำได้เผาผลาญจนหมดแรงข้าวต้มแน่ เพราะน้ำมีมวลที่ต้องว่ายผ่าน การเคลื่อนที่จึงต้องใช้แรงไม่เบา สังเกตไหมล่ะหลังว่ายน้ำนานๆ จะหิวมาก
สร้างความท้าทายตอนว่ายน้ำ
การว่ายป๋อมแป๋มไปอย่างไร้จุดหมายหรือลอยตัวอาบแดด จะทำให้การว่ายน้ำไม่สนุกและน่าเบื่อ ดังนั้นลองกำหนดจุดหมายสั้นๆ เช่น ว่ายไป-กลับสองรอบสระ ทั้งนี้ทั้งนั้นอย่ากำหนดเป้าหมายจนเกินตัวนะ เดี๋ยวตะคริวกินกลางสระล่ะงามไส้เลย ความสนุกอยู่ที่เราจะต้องแบ่งแรงการหายใจ ความเร็ว ผ่อนแรงการจ้วงว่ายจนว่ายได้เท่าจุดหมายที่ตั้งไว้ เท่านี้ก็ไปว่ายน้ำคนเดียวได้ไม่กลัวเบื่อแล้ว...

วันจันทร์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2553

HOW TO ENT ' ทำอย่างไรให้ent'ติด

How to Ent’ : ทำอย่างไรให้Ent’ติด

หากถามว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตมัธยมปลายคืออะไร หลาย ๆคนคงจะตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า “การสอบเข้ามหาวิทยาลัย” เพราะมันคือก้าวที่สำคัญก้าวหนึ่งในชีวิต หากเราสามารถเข้าสถาบันที่มีชื่อเสียง อนาคตก็มีโอกาสที่ดีในการทำงาน การสอบนี้เป็นการสอบแข่งขันจากนักเรียนทั่วประเทศ เพื่อแย่งชิงเก้าอี้ในมหาวิทยาลัย แล้วเราจะทำอย่างไรให้เอาชนะคนเป็นแสนเพื่อให้เรียนในมหาวิทยาลัยชื่อดังได้ ลองมาดูกัน

การที่เราจะสอบติดได้นั้น เราต้องรู้เสียก่อนว่าเราชอบอะไร อยากเป็นอะไร การค้นหาตัวเองเป็นเรื่องสำคัญมาก ๆ เพราะว่า การไม่รู้จักตัวเองทำให้เราไม่มีเป้าหมาย เปรียบเสมือนเรือที่ไม่มีต้นหนคอยบังคับทิศทาง ถ้าเราไม่รู้ว่าจะเรียนอะไร และหากเราเลือกเรียนที่เราไม่ชอบ ก็อาจจะต้องไปสอบใหม่ ซึ่งเสียทั้งเวลาและความรู้สึก วิธีการที่เราจะค้นหาตัวเองนั้นมีมากมาย เช่น การเข้าร่วมทำกิจกรรมเยอะ ๆ เพราะการทำกิจกรรม ทำให้เราได้รู้จักการเข้าสังคมใหม่ ๆ การพบเจอผู้คนที่หลากหลาย ทำให้ได้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และประสบการณ์ อีกทั้งสมัยนี้ อินเทอร์เน็ต ทำให้โลกของเราแคบลง การจะหาข้อมูลต่าง ๆก็สามารถทำได้รวดเร็วขึ้น จึงไม่เป็นการยากเลยที่เราจะศึกษาหาข้อมูล อีกวิธีหนึ่งก็คือ การเข้าไปที่มหาวิทยาลัยเลย สถาบันส่วนใหญ่จะมีวันเปิดบ้าน ซึ่งเป็นการแนะแนวการศึกษาต่อจากรุ่นพี่ ที่คอยให้คำปรึกษา ไขข้อสงสัยให้กับน้อง ๆถ้ารู้ว่าเราชอบอะไร และได้เรียนในสิ่งที่ชอบต่อให้เนื้อหาที่เรียนยากอย่างไร เราก็ยังมีความสุข และชีวิต4ปีในรั้วมหาวิทยาลัยของเราก็คงไม่เสียเวลาเปล่าอย่างแน่นอน

เมื่อเรารู้จักตัวเองแล้วก็ต้องตั้งเป้าหมายว่าอยากจะเข้าคณะไหน มหาวิทยาลัยใด แล้วจึงมุ่งมั่นเข้าหาเป้าหมายที่เราตั้งไว้ด้วยใจที่มุ่งมั่น ไม่ไขว้เขว การที่เรามีความฝันเป็นเรื่องที่ดีเพราะจะทำให้เรายิ่งมีความพยายามในการอ่านหนังสือ ไม่ย่อท้อ มีหลายคนที่มีเป้าหมายแต่กลับไม่ยอมทำให้สำเร็จ เพราะกลัวบ้าง ไม่มั่นใจบ้าง กลัวสู้คนอื่นไม่ได้บ้าง ให้เลิกคิดไปได้เลยว่าเราทำไม่ได้ ไม่มีอะไรยากเกินความพยายาม เพราะฉะนั้นเราต้องความฝันของเราให้เป็นจริงให้ได้ !

กำลังใจก็เป็นสิ่งสำคัญในการสอบไม่แพ้กัน คนเราจะมีแรงขึ้นมาเมื่อได้รับกำลังใจจากนที่เรารัก หากเปรียบการสอบเป็นสงคราม ฝ่ายที่ได้รับกำลังใจมากกว่าก็จะทำให้เกิดใจสู้ พยายามที่จะฟาดฟันและสังหารคู่ต่อสู้ให้ดับดิ้น เราสามารถหากำลังใจได้จากที่ไหนบ้าง ? กำลังใจนั้นหาได้รอบตัว อันดับแรกเลยก็คือกำลังใจจากพ่อแม่ เพราะกำลังใจจากพ่อแม่นั้นเป็นกำลังใจที่ดีที่สุด คงไม่มีใครจะรักและห่วงใยเราเท่าพ่อแม่อีกแล้ว ยามใดที่เราอ่อนล้า และหมดกำลังใจ ก็จะมีท่านทั้งสองคอยเดิมพลังใจให้เรา พร้อมที่จะสานฝันต่อไป กำลังใจจากเพื่อนก็เป็นมีส่วนสำคัญอีกเช่นกัน เพราะวัยรุ่นเพื่อนจะมีอิทธิพลกับเรามากที่สุด หากเราเครียดก็คุยกะปรึกษากับเพื่อนได้ เพราะอย่างน้อยเพื่อนก็สอบเหมือนกับเรา มีอะไรก็คุยกันรู้เรื่อง และจะได้ช่วยให้กำลังใจซึ่งกันและกัน อีกกำลังใจที่สำคัญก็คือการสร้างแรงบันดาลใจ บางคนที่เป็นลูกคนโตก็อยากจะสร้างความภาคภูมิใจให้กับวงศ์ตระกูล จึงเอาความคิดนี้มาเป็นแรงบันดาลใจ การจินตนาการว่าเราได้ใส่เครื่องแบบในสถาบันที่อยากเรียนก็ช่วยให้มีกำลังใจมากขึ้นได้เหมือนกัน เราต้องหาแรงบันดาลใจให้เจอ และจงใช้มันเพื่อเป็นเชื้อเพลิงที่จะทำให้เราขับเคลื่อนเข้าหาความฝันที่รออยู่ในอนาคต

สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งต้องรู้จักเทคนิคการอ่านหนังสือ การอ่านหนังสือเป็นปัจจัยหลักในการสอบเข้ามหาวิทยาลัย เราจะเห็นได้ว่าหลายคนดูเหมือนว่าจะอ่านหนังสือมาเยอะ แต่เวลาสอบจริง ๆกลับสอบได้คะแนนน้อย เพราะอ่านเอาแต่ปริมาณ แต่ไม่ได้คุณภาพ อันดับแรกเลยคือเราต้องทำตารางอ่านหนังสือ ว่าจะอ่านอะไร วันไหน วิชาอะไรบ้าง เพราะตารางอ่านหนังสือนี้จะช่วยให้เรามีหลักในการอ่าน ที่สำคัญคือเราต้องมีความรับผิดชอบ วางแผนแล้วต้องทำให้ได้ ไม่ใช่คิดแล้วไม่ทำ สิ่งที่เราคิดเอาไว้ก็จะไม่มีความหมายอะไรเลย การจับกลุ่มติวกับเพื่อนก็เป็นเรื่องดี การอ่านหนังสือคนเดียวเวลาที่ไม่เข้าใจตรงไหนก็ไม่มีใครอธิบายได้ แต่ถ้าเราติวกับเพื่อนเพื่อนก็จะได้ช่วยเราอธิบาย คลายความข้องใจ การติวนั้นทำให้เราต้องเตรียมพร้อมก่อนที่จะมาติวให้เพื่อน เราจึงได้อ่านหนังสือมาก่อนแล้วรอบนึง ก่อนจะไปอธิบายให้เพื่อนฟัง การอ่านหนังสืออย่างเดียวคงไม่สามารถทำให้เราสอบติดได้ เมื่ออ่านแล้วต้องรู้จักหาแนวข้อสอบเก่า ๆมาฝึกทำ การฝึกทำข้อสอบทำให้เรามีทักษะ รู้จักแก้ปัญหา และได้ใช้ความรู้ทั้งหมดที่มีลงไปในข้อสอบ การฝึกทำมาก ๆ จะทำให้เรารู้จัก จุดอ่อน-จุดแข็ง วิชาไหนอ่อนก็อ่านเพิ่ม หรือให้เพื่อนช่วยติวให้ ยิ่งเราฝึกมากเรายิ่งชำนาญ เมื่อเจอข้อสอบจริง ๆก็จะคุ้นเคยและทำได้อย่างสบาย ๆ

จากที่ได้กล่าวมาทั้งหมดทำให้เรารู้ได้ว่าการสอบเข้ามหาวิทยาลัยนั้นไม่ได้ยากอย่างที่คิด ไม่ว่าใคร ๆก็สามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยชื่อดังได้ ขอแค่เพียงมีความฝัน และไม่ย่อท้อ ต่อให้ฝันจะสูงแค่ไหน เราก็สามารถเอื้อมไปคว้ามันมาได้อย่างแน่นอน